
งวดเข้ามาทุกขณะสำหรับการโหวตเลือก 7 กรรมการ “กสทช.” หลังคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ที่ได้รับเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. ขอขยายเวลาพิจารณาตรวจสอบประวัติอีก 30 วัน เดิมจะครบกำหนดในวันที่ 11 พ.ย. ขยับไปเป็น 11 ธ.ค. อีกไม่นานก็จะได้รู้ว่าใครจะได้ถูกเลือกบ้าง
ว่าที่ กสทช. 7 ราย 7 ด้าน ประกอบด้วย 1.พลอากาศโทธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ด้านกิจการกระจายเสียง 2.ดร.พิรงรอง รามสูต ด้านกิจการโทรทัศน์ 3.นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ ด้านกิจการโทรคมนาคม 4.ศาสตราจารย์คลินิกนายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค 5.นายต่อพงศ์ เสลานนท์ ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน 6.ร้อยโท ดร.ธนกฤษฏ์ เอกโยคยะ ด้านกฎหมาย และ 7.รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย ด้านเศรษฐศาสตร์
- Young FTI สะท้อน 8 ปัญหาถึง “พิธา” นวัตกรรมดีแต่พี่ไม่เหลียวแล
- กรมอุตุฯอัพเดต เส้นทางพายุไต้ฝุ่น “มาวาร์” เตือนฝนตกหนัก 27-30 พ.ค.
- เวียดนามไฟดับ สะเทือนถึง “นักลงทุนไทย”
แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคมกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ต้องขยายเวลา เพราะว่าที่กรรมการ กสทช.บางรายยังส่งเอกสารประกอบคุณสมบัติความต่อเนื่องในการทำงานไม่ครบ ทำให้การตรวจสอบคุณสมบัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับเสนอชื่อยังไม่เรียบร้อย โดย พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564 มาตรา 16 วรรค 2 ระบุว่า
กรณีที่เป็นการเลือกกรรมการใหม่ทั้งคณะ หรือเลือกกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามมาตรา 20 โดยมีประธานกรรมการพ้นจากตำแหน่ง และมีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึง 4 คน เมื่อมีผู้ได้รับเลือกจากวุฒิสภาไม่น้อยกว่า 5 คนแล้ว หรือเมื่อจำนวนผู้ได้รับเลือกรวมกับกรรมการ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่รวมแล้วไม่น้อยกว่า 5 คน ให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจัดให้ผู้ได้รับเลือก หรือผู้ได้รับเลือกและกรรมการซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ แล้วแต่กรณีประชุมร่วมกันเพื่อเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธานกรรมการ แจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบเพื่อแจ้งนายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
“มีกระแสว่าวุฒิสภาอาจโหวตให้ผ่านไม่ครบทั้ง 7 ด้าน แต่จะให้ผ่าน 5 ด้าน เพื่อให้กรรมการ กสทช.ปฏิบัติหน้าที่ได้ก่อน หลังยืดเยื้อมานาน ซึ่งตามกฎหมาย เมื่อได้รับการแต่งตั้งแล้ว กรรมการจะดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจได้ โดยให้ถือว่า กสทช.ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มี และดำเนินการสรรหาเพิ่มเติม ดังนั้น ถ้าวุฒิสภาเห็นชอบ 5 คน บอร์ด กสทช.ชุดใหม่ก็ทำหน้าที่ได้ หากมีการฟ้องคดีเกี่ยวกับการสรรหากรรมการต่อศาลปกครอง ก็ไม่ต้องชะลอการดำเนินการใด ๆ เว้นแต่จะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น”
ด้าน นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) แสดงความเห็นว่า กสทช.ชุดใหม่มีเรื่องเร่งด่วน คือ 1.จัดประมูลใบอนุญาตการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม เนื่องจากอายุวิศวกรรมของไทยคม 4 จะหมดในอีก 2-3 ปี หากไม่มี กสทช.ชุดใหม่ จะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมดาวเทียมเพราะไม่ใช่แค่ประมูลเสร็จแล้วจะยิงดาวเทียมได้เลย ถ้าช้าอาจโดน ITU ยกเลิกสิทธิการใช้วงโคจร และ 2.การประมูลคลื่น 3500 MHz