คริปโทฯ ผวา เงินลงทุนไหลออกต่อเนื่องสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ภาพโดย WorldSpectrum จาก Pixabay

CoinShares บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล เผยเม็ดเงินไหลออกจากตลาดคริปโทเคอร์เรนซีสูงสุดเป็นประวัติการณ์สูงถึง 207 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสัปดาห์แรกของปี 2565 “บิตคอยน์”ไหลออกหนักสุดถึง 107 ล้านเหรียญสหรัฐ

วันที่ 12 มกราคม 2565 CoinShares บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดเผยว่าเม็ดเงินไหลออกจากตลาดผลิตภัณฑ์การลงทุน และกองทุนสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ โดยมีมูลค่ามากถึง 207 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงสัปดาฆืแรกของปี 2565 และเป็นการไหลออกติดต่อกันนานถึง 4 สัปดาห์ นับตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ารวม 465 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดย CoinShares ยังระบุว่าในช่วงสัปดาห์แรกของปี 2565 เม็ดเงินที่ไหลออกจากตลาดการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมากที่สุดเป็นสกุลเงินบิตคอยน์ สูงถึง 107 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด

นายเจมส์ บัทเทอร์ฟิลล์ นักยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนของ CoinShares กล่าวว่าการที่เม็ดเงินจำนวนมากไหลออกจากตลาดการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล มีสาเหตุมาจากการที่นักลงทุนมีปฏิกิริยาต่อรายงานการประชุมล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาที่ระบุว่าเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่จะเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

โดยการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินของ เฟดเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลต่อการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี เนื่องจากสภาพคล่องของตลาดจะอยู่ในภาวะที่ตึงตัวและมีความผันผวนมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปี 2565 มูลค่าบิตคอยน์ร่วงลงเกือบ 10% โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ดิ่งหลุดจากระดับ 40,000 เหรียญสหรัฐ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2564
ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในแง่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด อย่าง “อีเธอเรียม” มีเม็ดเงินไหลออกอยู่ที่ 39 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลอด 5 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการไหลออกของสูงถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ


โดย CoinShares ระบุกล่าวว่า สัดส่วนกระแสไหลออกของ “อีเธอเรียม” คิดเป็น 1.4% ของมูลค่าพอร์ตโฟลิโอของการลงทุนทั้งหมดของ “อีเธอเรียม” ซึ่งสูงกว่าของบิตคอยน์ ส่วนมูลค่าของบล็อกเชน การไหลออกของเม็ดเงินไม่ได้แย่มากมีการไหลออกอยู่ที่ 10 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา