“ซีเมนส์” ร่วมมือ “กฟผ.” พัฒนาระบบควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้า นำร่องโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดใหญ่สุดในโลกในไทย
วันที่ 28 มกราคม 2565 รายงานข่าวจากบริษัท ซีเมนส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่าบริษัทได้ร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการนำระบบ “SICAM Microgrid Control” และ “Photovoltaic Plant Control” มาใช้ควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้าในโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
นางสุวรรณี สิงห์ฤาเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซีเมนส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ซีเมนส์ ติดตั้งและทดสอบระบบควบคุม Microgrid Controller ซึ่งทำงานร่วมกับ Photovoltaic Plant Control ให้โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร และเริ่มจ่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์เมื่อ 31ต.ค.ที่ผ่านมา โดยทดสอบและเปิดใช้งานระบบควบคุมดังกล่าวเต็มรูปแบบแล้ว
สำหรับโครงการดังกล่าวมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ขนาด 45 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 36 เมกะวัตต์ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน โดยซีเมนส์ได้เพิ่มซอฟต์แวร์บนคลาวด์ Distributed Energy Optimization (DEOP) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลข้อมูลการจ่ายไฟผ่านระบบไฮบริดแบบเรียลไทม์บนแดชบอร์ดในการช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานใช้แดชบอร์ด เพื่อตรวจสอบพารามิเตอร์ที่สำคัญ
เช่น สถานะการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้า กำลังการผลิตไฟฟ้า ค่าวัดสภาพอากาศ และค่าพยากรณ์กำลังการผลิตที่โรงไฟฟ้ามีอยู่ ตอบสนองแนวคิดของ กฟผ. ด้านการจัดการ คาดการณ์ และรับมือกับการจ่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้า และพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ. มุ่งเน้นพัฒนาโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้าของประเทศให้ทันสมัยด้วยการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาช่วยบริหารจัดการ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์เป็น “ศูนย์” และถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของ กฟผ.ในการก้าวเข้าสู่สังคมไร้คาร์บอนในอนาคต