Pay Solutions จับมือวีซ่า-ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัว PaySoon โซลูชั่นนำวงเงินบัตรเครดิตองค์กรเสริมสภาพคล่องธุรกิจไทย พร้อมแย้มกองทุนคริปโทฯ และคลาวด์ฟันดิ้งเกิดแน่ หากกฎหมายไม่พร้อม ย้ายไปทำต่างประเทศ
วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 บริษัท เพย์โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์ จับมือกับ “วีซ่า” ผู้ให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดตัว “เพย์ ซูน” (PaySoon) บริการชำระเงินออนไลน์ระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยบัตรเครดิตนิติบุคคล ซึ่งขยายระยะเวลาการชำระเงิน และลดต้นทุนการบริหารจัดการเพิ่มโอกาส และช่วยให้องค์กรดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพย์โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยอยู่ในสภาวะชะลอตัวมากว่า 2 ปี ต่อเนื่องมายังวิกฤตยูเครน-รัสเซียทำให้เศรษฐกิจอาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ขณะที่ธุรกิจต่าง ๆ ต้องปรับตัวเข้าสู่การทำธุรกรรมทางออนไลน์เพิ่มขึ้น และการบริหารจัดการต้นทุนขององค์กรธุรกิจต่าง ๆ มีความสำคัญมาก และสิ่งที่คนทำธุรกิจในช่วงเวลานี้ต้องการมาก คือ สภาพคล่องทางการเงิน
“เราร่วมกับสภาอุตสาหกรรม และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สร้างตัวชี้วัดที่เรียกว่า CCC (Cash Conversion Cycle) ที่วัดว่าตั้งแต่เริ่มผลิตสินค้า และบริการจนถึงวันที่ได้รับผลตอบแทนใช้เวลากี่วัน พบว่าก่อนวิกฤตโควิด-19 จะอยู่ที่ 14-16 วัน แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 26 วัน สะท้อนว่าสภาพคล่องของธุรกิจสำคัญมาก”
และเครื่องมือที่ช่วยเสริมสภาพคล่องที่มีอยู่ คือ การกู้ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งแบบมีสินทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยราว 4-9% และสินเชื่อบุคคล รวมถึงสินเชื่ออื่น ๆ ที่ดอกเบี้ยสูงถึง 14-28% ทำให้ธุรกิจระดับกลางและเล็กแบกรับต้นทุนที่สูง และเข้าถึงแหล่งให้บริการสภาพคล่องการเงินได้ยาก ซึ่งบริการ “เพย์ ซูน”ออกมาตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ
“เราหยิบเอาข้อมูลที่พบว่ามีบัตรเครดิตองค์กรอยู่ราว 100,000 ไม่ได้ใช้วงเงินเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นหากมีโซลูชั่นที่ช่วยนำวงเงินนั้นมาเป็นสภาพคล่องได้ก็จะดีกับธุรกิจที่ต้องการถือเงินสด เพย์ ซูน ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มการชำระค่าสินค้าและบริการระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อที่เป็นนิติบุคคล เพื่อช่วยบริหารการรับและการชำระเงินค่าใช้จ่ายขององค์กรด้วยระบบจัดการหลังบ้านที่ผู้ใช้งานตรวจสอบรายการทุกธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์”
สำหรับประโยชน์ที่ได้รับจะเกิดขึ้นทั้งในส่วนของผู้ซื้อและผู้ขาย คือ
1.ผู้ซื้อ สมัครใช้งานง่าย ใช้เอกสารการสมัครน้อย สะดวก รวดเร็ว เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว สามารถใช้บัตรเครดิตที่ลงทะเบียนชำระเงินให้ผู้ขายที่ลงทะเบียนไว้ โดยปลอดดอกเบี้ยสูงสุด 45 วัน
2.สำหรับผู้ขาย เพย์ ซูน ช่วยเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจมากขึ้น จากการรับเงินสดได้เร็วขึ้นเมื่อมีการขายสินค้า หรือบริการ เป็นการลดภาระการให้เครดิตเทอมกับลูกค้า ลดปัญหาลูกหนี้ระยะยาว ทำให้ธุรกิจลดหนี้เสียได้มาก ตอบโจทย์การทำธุรกิจทั้งขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ให้นำเงินทุนหมุนเวียนที่เป็นหัวใจสำคัญของการบริหารธุรกิจไปต่อยอดได้
นายภาวุธกล่าวว่าในปีแรกตั้งเป้ามีผู้ใช้งานคิดเป็นยอดการชำระเงิน ไม่น้อยกว่า 720 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท ในปี 2566
อีกทั้งในอนาคต บริษัทจะพัฒนาโซลูชั่นใหม่ ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้ลูกค้ากลุ่มองค์กรหรือนิติบุคคลเข้าถึงบริการที่เสริมสภาพคล่องทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้คลาวด์ฟันดิ้ง หรือการใช้คริปโตเคอร์เรนซีจ่าย และค้ำประกันสินทรัพย์
อย่างไรก็ตาม แม้กฎหมายไทยอาจยังไม่พร้อมสำหรับการใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ดังกล่าว แต่บริษัทก็พร้อมนำไปเปิดบริการในต่างประเทศ
