“ปารีส ฮิลตัน” ราชินีแห่งโลกเมตาเวิร์ส

Paris Hilton Photo by BRIDGET BENNETT / AFP
คอลัมน์ : เทคไทม์
ผู้เขียน : มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

หากพูดถึงปารีส ฮิลตัน หลายคนคงคิดถึงความเชื่อมโยงระหว่างเซเลบสาวสวยผมบลอนด์กับโลกไฮเทคไม่ออก แต่ “อย่าตัดสินหนังสือจากหน้าปก” ฉันใด ก็จงอย่าให้ภาพลักษณ์ของปารีสในฐานะทายาทสาวตระกูลดังมาทำให้เกิดอคติในใจฉันนั้น

เพราะปารีสเป็นมากกว่าแค่เป็นเหลนของคอนราด ฮิลตัน เจ้าของเครือโรงแรมฮิลตัน

ปารีสนิยามตัวเองว่าเป็น “เด็กเนิร์ด” ที่ตีบทสาวผลบลอนด์ไร้สมองได้แตกกระจุย

เธอโด่งดังจาก reality show ชื่อ “The Simple Life” ในปี 2003 และกลายเป็น trendsetter ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมากนับจากนั้น

ในขณะที่คนจำนวนมากมักตัดสินเธอจากรูปลักษณ์ภายนอก ปารีสค่อย ๆ สร้างอาณาจักร 11:11 Media ของเธอ จนล่าสุดมีถึง 19 สายธุรกิจ ตั้งแต่น้ำหอม เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ไปจนถึงบริษัทโปรดักชั่นอย่าง Slivington Manor Entertainment ผู้ผลิตรายการ “Cooking with Paris” และ “Paris Hilton in Love” โดยบริษัท 11:11 Media มีรายได้ปีที่ผ่านมากว่า 4 พันล้านเหรียญ

ระหว่างที่คนยังมองว่าเธอเป็นแค่ไฮโซ “สมองกลวง” ปารีสค่อย ๆ สร้างตัวตนของเธอในฐานะ “นักธุรกิจ” ที่ประสบความสำเร็จจนพวกที่เคยนินทาเธอต่าง ๆ นา ๆ ต้องหุบปากไป

ที่น่าสนใจคือ ปารีสไม่ได้สนใจแค่ธุรกิจเสื้อผ้าหน้าผม หรือความสวยความงาม แต่เธอยังนับเป็นนักธุรกิจเซเลบคนแรก ๆ ที่ลงทุนในโลกของเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่าง “เมตาเวิร์ส (Metaverse)” และ NFTs

เธอหลงใหลในโลกเมตาเวิร์สถึงขั้นสร้างโลกเสมือนของตัวเอง หรือ “Paris world” ขึ้นบนแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ชั้นนำอย่าง roblox โดยมีแฟน ๆ คอยต่อคิวซื้อตั๋วเพื่อเข้าร่วมงานปาร์ตี้ที่มีปารีสเป็น “ดีเจ.” หรือแห่ช็อปปิ้งเสื้อผ้า (เสมือน) เล่นเจ็ตสกี (เสมือน) และร่วมอีเวนต์ (เสมือน) ต่าง ๆ แล้วแต่ปารีสจะเนรมิตขึ้น

เช่น งานเลี้ยงหลังจบคอนเสิร์ต Coachella ที่ปกติจะมีแต่คนดังเท่านั้นที่ได้รับเชิญ แต่ปีนี้ปารีสเปิดโอกาสให้แฟน ๆ ของเธอสามารถเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์งานเลี้ยงระดับโลกได้ผ่าน “Paris world” ซึ่งอาจด้วยข้อจำกัดทางเทคนิค ทุกอย่างแม้กระทั่งอวาตาร์ของปารีสก็ยังดูเป็นการ์ตูนค่อนข้างมาก กระนั้นก็มีคนแห่ซื้อตั๋วเข้าร่วมงามกว่า 400,000 คน

CNN รายงานว่า ปารีสมีชื่อเล่นใหม่ว่า “ราชินีแห่งโลกเมตาเวิร์ส” ที่นอกจากจะลงทุนในเทคสตาร์ตอัพหลายแห่งแล้ว ยังสร้าง NFTs ของตัวเองร่วมกับศิลปินชื่อดังอย่าง Blake Kathryn ภายใต้ชื่อ “Iconic Crypto Queen” ที่ขายได้ถึง 1.11 ล้านเหรียญ

ความสนใจใน NFTs ของปารีสเริ่มต้นในปี 2019 เมื่อเพื่อนสนิทมาขอให้ช่วยผลิตงาน digital art บนไอแพดง่าย ๆ ให้สักชิ้นเพื่อจะเอาไปประมูลหาเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟป่าในออสเตรเลีย

นับจากนั้นเธอกลายเป็นกระบอกเสียงให้กับ NFTs ไม่ว่าจะไปออกรายการไหนเธอก็มักจะพูดถึง NFTs แม้กระทั่งช่วงโควิด เธอก็ยังไปร่วมพูดคุยใน clubhouse กับศิลปินอื่น ๆ เสมอ แม้พักหลังตลาด NFTs จะดูซบเซาด้วยยอดขายเพียง 19,000 ชิ้นในเดือนนี้ เมื่อเทียบกับ 225,000 ชิ้นในเดือนกันยายนปีที่แล้ว

ในขณะที่ปารีสพยายามสร้างชื่อให้ตัวเองในฐานะนักธุรกิจ จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ภาพจำที่สังคมมีต่อเธอเปลี่ยนไป มาจากรายการสารคดีบน YouTube ชื่อ “This is Paris” ที่บอกเล่าเรื่องราวที่เธอเองก็เคยโดน “รังแก” สมัยเป็นนักเรียนประจำแห่งหนึ่ง

สารคดีนี้มีคนเข้าดูถึง 58 ล้านครั้ง และทำให้ปารีสดูเป็น “คน” ปกติมากขึ้นแทนที่ภาพลักษณ์เดิม ๆ ที่ถูกมองว่า เป็นสาวสวยรวยทรัพย์ที่ชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบ

หลังจากสารคดีเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป ปารีสได้เข้าไปมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายท้องถิ่นใน 7 รัฐเพื่อป้องกันการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก นอกจากนี้ ยังได้รับเชิญไปประชุมที่ทำเนียบขาวเพื่อรณรงค์การออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองเด็ก

ย้อนกลับไป ณ จุดเริ่มต้นเส้นทางคนดังของเธอในรายการ “The Simple Life” เมื่อ 20 ปีก่อนปารีสไม่เสียใจที่เธอทำรายการนั้นแม้มันจะทำให้เธอเป็นที่จดจำในฐานะสาวสวยไร้สมอง

เธอมองว่ารายการนั้นช่วยเปิดโอกาสให้เธอสร้างแบรนด์ของตัวเองจนขยายกลายเป็นธุรกิจใหญ่โตอย่างในปัจจุบัน

มาวันนี้เธอได้พิสูจน์แล้วว่าเธอมีสมองมากกว่าที่หลายคนคิด และหวังว่าคนจะยอมรับเธอในฐานะ “นักธุรกิจ” มากขึ้น

ปารีสจะยังคงเดินหน้าสะสมงาน NFTs และขยาย “Paris world” ไปพร้อม ๆ กับเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนลุกขึ้นมาสร้างธุรกิจหรือแบรนด์ของตัวเองจากเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน