“เศรษฐกิจพัทยาฟื้น นักท่องเที่ยวหลั่งไหล” ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์

ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์
ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา
สัมภาษณ์พิเศษ

เริ่มเห็นทิศทางและมีสัญญาณบวกปรากฏขึ้นแล้ว สำหรับ “พัทยา” เมืองแห่งการท่องเที่ยว “ไข่แดง” แห่งภาคตะวันออก หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มายาวนานกว่า 2 ปีเต็ม แม้จะทำให้หัวเมืองหลักแห่งนี้ซวนเซไปบ้าง แต่วันนี้ทุกอย่างเริ่มกลับมาสดใสและมีความหวังอีกครั้ง

“ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์” นายกเมืองพัทยาคนใหม่ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ประชาชาติธุรกิจ” โดยฉายภาพรวม พร้อมวิเคราะห์ทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจที่จะสร้างเม็ดเงินใหม่ ๆ ให้สะพัดอีกครั้ง

เมืองที่ไม่เคยหลับใหล

ต้องยอมรับว่า “พัทยา” เป็นเมืองท่องเที่ยวยามราตรีระดับโลกที่ไม่เคยหลับใหล เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แบ่งได้เป็น 3 ช่วง ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา ยุคแรกเป็นช่วงที่ทหารอเมริกันเข้ามา และมีหมู่บ้านชาวประมง จากนั้นพัทยาเริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในช่วงเทศกาลต่าง ๆ

จนมาถึง “ยุคเปลี่ยนผ่าน” มีชาวเยอรมันเข้ามาอีก ทำให้เกิดสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ โดยเฉพาะสถานบันเทิง เช่น บาร์เบียร์ ที่เติบโตขึ้นตามไลฟ์สไตล์ หรือแม้กระทั่งอาชีพเมียเช่า

และช่วงพีกสุด ก่อนเกิดโควิดไม่กี่ปี ธุรกิจบันเทิงเติบโตสุด ๆ ทำให้การท่องเที่ยวเกิดความหลากหลาย มีผู้คนมาเที่ยวเมืองพัทยามากขึ้นเป็นลำดับ

เมื่อมาถึงช่วงโควิด-19 ทุกอย่างจบ อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงเกิดโรคระบาด แต่เราก็มี EEC (โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) Medical Hub (ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ) และ MICE CITY นักเดินทางหรือกลุ่มที่เดินทางมาประชุม สัมมนา และชมนิทรรศการ โดยมี TCEB สนับสนุน

“ก่อนมีโควิด-19 ระบาด เมืองพัทยามีรายได้ถึง 3 แสนล้านบาทต่อปี มีนักท่องเที่ยวเข้ามาทั้งหมด 18 ล้านคน แบ่งเป็นคนไทย 10 ล้านคน ต่างชาติ 8 ล้านคน โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่เป็นชาวจีน รัสเซีย เยอรมัน อังกฤษ”

หากเทียบกับตอนนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 มีเดินทางเข้ามาพัทยาเพียง 6 ล้านคน ถือว่าได้มาแล้วประมาณ 1 ใน 3

“แต่ประเด็นตอนนี้คือ นักท่องเที่ยวมีกำลังซื้อน้อย โดยเฉพาะกลุ่มคนไทย ส่วนใหญ่ได้ใช้สิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ส่วนต่างชาติก็เปลี่ยนกลุ่มกลายเป็นคนอินเดีย ซึ่งใช้จ่ายน้อยในเรื่องค่าที่พัก แต่จะใช้จ่ายเยอะในแง่ของสถานบันเทิง”

ชลบุรีฟื้นตัว พัทยาไปได้ดี เกาะล้านแน่น

นายกเมืองพัทยากล่าวถึงภาพรวมว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวดี ตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนมิถุนายน 2565 ตามตัวเลขของ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจังหวัดชลบุรีแล้ว 6 ล้านคน ดีขึ้นเรื่อย ๆ

ในจำนวนนี้มีผู้เดินทางเข้าเมืองพัทยาถึง 80% เป็นชาวต่างชาติ 1 ล้านกว่าคน ปัจจัยหลักคือ รัฐบาลมีการยกเลิกมาตรการ Thailand Pass ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเริ่มทยอยเดินทางเข้ามามากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย อังกฤษ เวียดนาม และเยอรมัน

ยิ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวเทศกาล หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก จะกระจายอยู่ตามชายหาดทั่วไป ในช่วงกลางคืนก็จะอยู่โซนวอล์กกิ้งสตรีต

ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อหัวยังน้อยอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของเศรษฐกิจภาพรวมในแง่รายได้ รายจ่าย และค่าครองชีพ

“แต่ยังดีที่เมืองพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางตั้งใจจะเลือกมาท่องเที่ยว พักผ่อน และจับจ่ายใช้สอย ที่ดีมากเติบโตมากคือช่วงวันหยุดยาวจะมีนักท่องเที่ยวคนไทยจำนวนมากเดินทางไปเกาะล้าน ตกวันละ 20,000 กว่าคน”

หาดพัทยา

ปักหมุด “เมืองสปอร์ตซิตี้”

“ปรเมศวร์” บอกว่า เมืองพัทยามีเสน่ห์ที่มีความหลากหลายของการท่องเที่ยว ทั้งเรื่องการลงทุนเมดิคอลฮับ, ไมซ์ซิตี้ ซึ่งได้ประกาศไปแล้วว่า “เมืองพัทยาจะเป็นเมืองสปอร์ตซิตี้” ที่จะช่วยกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวทั่วไปให้มีความคึกคัก

สำหรับไมซ์ซิตี้ ช่วงเดือนพฤษจิกายนปีนี้จะมีงานใหญ่ ประชุมสมาคมอินเตอร์เนชั่นแนล คอนเวนชั่น แฟมิลี่แพลน คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 5,000 กว่าคนที่เมืองพัทยา

ขณะเดียวกันเรายังมีกิจกรรมที่ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว เช่น การจัดกิจกรรมพัทยามาราธอน งานพัทยามิวสิค เฟสติวัล งานเดินกินถิ่นนาเกลือ และที่สำคัญคือ การส่งเสริมสปอร์ตทัวรึซึมที่จะจัดหลากหลาย โดยใช้พื้นที่บริเวณชายหาดในเขตจอมเทียน

สำหรับแผนพัฒนาเมืองที่กำลังเดินหน้าโครงการอยู่ขณะนี้คือ การนำสายไฟและสายสื่อสารลงดิน เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมือง ซึ่งทั้งพัทยามีอยู่ 36 operator จำนวน 9 เส้นทาง ระยะทาง 20 กิโลเมตร

ปัจจุบันโซนพัทยาเหนือดำเนินการเสร็จแล้ว ต่อไปเดือนกันยายนจะดำเนินการโซนพัทยากลาง และช่วงปลายปีจะดำเนินการโซนพัทยาใต้ ขณะดำเนินงานเราต้องบูรณาการร่วมกัน ทั้งเรื่องไฟส่องสว่างอีกด้วย

อีกทั้งยังมีโครงการพัฒนาพื้นที่ตลาดนาเกลือ การทำอาคารจอดรถ 5 ชั้น เนื่องจากพื้นที่จอดรถในพัทยาไม่เพียงพอ เพราะได้รับความนิยมเรื่องอาหารทะเล คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2565 รวมถึงการพัฒนาสวนสาธารณะด้วย

เปิด 7 แผนงาน NEO Pataya

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ NEO Pataya ซึ่งเป็นแผนพัฒนาเมืองพัทยาที่สานต่อจากนายสนธยา คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา โดยทำงานควบคู่กับ EEC มีแผนงาน 7 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมแบบเบ็ดเสร็จ 2.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสีย วงเงินงบประมาณ 750 ล้านบาท

3.โครงการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะแบบโมโนเรล เชื่อมระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงและรถไฟรางคู่ 4 สายทาง รวมระยะทาง 34 กม.วงเงินงบประมาณ 50,000 ล้านบาท

4.โครงการพัฒนาแผนแม่บทดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศเมืองพัทยา วงเงินงบประมาณ 500 ล้านบาท 5.โครงการพัฒนาพื้นที่ตลาดนาเกลือ หรือนีโอนาเกลือ วงเงินงบประมาณ 600 ล้านบาท 6.โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณท่าเรือพัทยาใต้ หรือท่าเรือบาลีฮาย เชื่อมต่อวอล์กกิ้งสตรีต ครอบคลุมพื้นที่ 160,000 ตารางเมตร วงเงินงบประมาณ 4,000 ล้านบาท 7.โครงการนีโอเกาะล้าน วงเงินงบประมาณ 250 ล้านบาท

“ปัจจุบันโครงการต่าง ๆ ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนศึกษา อาทิ โครงการระบบขนส่งมวลชนฯ ซึ่งศึกษาไว้ 4 เส้นทาง ที่เสร็จแล้วมี 1 เส้นทางคือ จากสถานีรถไฟความเร็วสูงฯ-ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ใช้งฯบลงทุน 10,000 ล้านบาท และต้องเป็นการลงทุนในรูปแบบ PPP (โครงการร่วมลงทุน)”

ซึ่ง EEC บอกว่า ถ้ามีสถานีรถไฟความเร็วสูงฯ สนามบินอู่ตะเภาแล้ว จะรับคนได้ 60 ล้านคนในอนาคต จากปัจจุบันรับได้ 2-3 ล้าน ถ้าจะมีคนมาเยอะขนาดนั้นเราต้องวางแผนเรื่องขนส่งกับแผนพัฒนาเมืองให้ไปด้วยกันได้ โดยร่วมกับ EEC เพื่อพัฒนาฮับตะวันออกทั้งระบบ