สนามบินภูเก็ต รับ 30 สายการบินไฮซีซั่น

สนามบินภูเก็ต

นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายได้มีการยกเลิกมาตรการสาธารณสุขตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 ท่าอากาศยานภูเก็ตมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 10,000 คนต่อวัน เทียบกับช่วงเดือนกันยายน 2565

มีผู้โดยสารขาเข้า-ขาออกเฉลี่ยอยู่ที่ 7,400 คนต่อวัน และคาดว่าในช่วงไฮซีซั่นฤดูหนาวปีนี้ ท่าอากาศยานภูเก็ตได้รับแจ้งจะมีจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินมาใช้บริการเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีผู้โดยสารในประเทศและระหว่างประเทศ ทั้งขาเข้าและขาออกอยู่ที่ 22,000 คน

ในเดือนตุลาคม 2565 จะเพิ่มเป็น 30,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นผู้โดยสารในประเทศประมาณ 16,000-18,000 คน ที่เหลือเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ

โดยมีสายการบินเดิมที่เคยบินอยู่มาลงที่ท่าอากาศยานภูเก็ตแจ้งจะบินเข้ามาในช่วงฤดูหนาวปี 2565/2566 จำนวน 30 สายการบิน เช่น มาเลเซีย เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงสายการบินจากยุโรป เช่น ฟินแลนด์ โปแลนด์ อังกฤษ ทั้งนี้ ในวันที่ 30 ต.ค. 2565 สายการบินแอโรฟลอต

ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติรัสเซียจะเริ่มบินมายังท่าอากาศยานภูเก็ต วันละ 2 เที่ยวบิน รวมถึงสายการบินใหม่ เช่น สายการบินเมียนมาแอร์ไลน์ นอกจากนี้ มีสายการบินเพกาซัส แอร์ไลน์ จากประเทศตุรกี จะบินเข้ามาลักษณะเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (charter flight) ทุกวันจันทร์ พฤหัสบดี และเสาร์ วันละ 1 เที่ยวบิน และจากกลุ่มสแกนดิเนเวียจะเข้ามาอีก 2 สายการบิน กำลังรอยืนยัน

นายมนต์ชัยกล่าวต่อไปว่า หากนับตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 2565 ท่าอากาศยานภูเก็ตรับผู้โดยสาร ทั้งสิ้น 4,949,266 ล้านคน หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ก่อนเกิดโรคโควิด-19 ช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย. 2562 มีผู้โดยสาร 13,497,583 คน คิดเป็น 36.67% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 จากการพยากรณ์ของฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ท่าอากาศยานไทย

คาดว่าผู้โดยสารจะกลับมาปกติเทียบเท่ากับปี 2562 เริ่มตั้งแต่เดือน ต.ค. 2565 เป็นต้นไป โดยมีผู้โดยสารอีกหลายประเทศโดยเฉพาะจีน ยังไม่เปิดสายการบินออกนอกประเทศมายังประเทศไทย ส่วนสายการบินไพรเวตเจ็ตตามปกติจะเข้ามาช่วงไฮซีซั่น เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ตอนนี้ยังไม่แจ้งความจำนงเข้ามามากนัก นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ปกติจะมาในช่วงปีใหม่ ต้องรอดูสถานการณ์ คาดว่าน่าจะเข้ามามากขึ้น

หลังจากโรคโควิด-19 แพร่ระบาดทำให้หลายสายการบินหยุดบิน และจะกลับมาช่วงฤดูกาลนี้คิดเป็น 70% ของเที่ยวบินของปี 2562 ส่วนอีก 30% เป็นสายการบินจีน ตอนนี้จีนยังไม่เปิดประเทศ และในปี 2566 คาดการณ์ว่า ท่าอากาศยานภูเก็ตจะรับเที่ยวบิน จำนวน 88,043 เที่ยวบิน และจำนวนผู้โดยสารกว่า 13 ล้านคน และคาดว่าปี 2567 จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นมาเทียบช่วงปี 2562 อยู่ที่ 18 ล้านคน

นายมนต์ชัยกล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 34 ปี การดำเนินงานท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2565 ท่าอากาศยานภูเก็ตได้ดำเนินงานและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยาน เพื่อมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพการให้บริการมาตรฐานในระดับสากล ปัจจุบันท่าอากาศยานภูเก็ตจัดเป็นท่าอากาศยานศูนย์กลางรองจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

และท่าอากาศยานดอนเมือง ภายใต้แนวคิด “Prime Destination through Secondary Hub Airport” เพื่อเป็นประตูหลักสู่แหล่งอารยธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามทางภาคใต้ฝั่งอันดามันของประเทศไทย

ในปีที่ผ่านมา ท่าอากาศยานภูเก็ตมีแผนพัฒนาและดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง หรือ Runway Strip, Runway End Safety Area (RESA) เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการ รวมถึงการปรับปรุงระบบรางระบายน้ำภายในเขตการบิน

นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงการบริหารจัดการแบบองค์รวมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรมสารสนเทศ และสิ่งอำนวยความสะดวก ให้มีความพร้อมต่อการรองรับผู้ใช้บริการให้ได้รับความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมก้าวเข้าสู่การดำเนินงานปีที่ 35 อย่างมีคุณภาพ สร้างความมั่นใจและความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการ ภายใต้คำขวัญ “ปลอดภัยคือมาตรฐาน บริการคือหัวใจ”