ผู้ว่านครศรีธรรมราช จี้ฝ่ายความมั่นคงแจ้งความรุกป่าสงวนแห่งชาติ นับ 100 ไร่

สงวนแห่งชาติ จ.นครศรีธรรมราช ถูกบุกรุก

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงเร่งคดี ตรวจสอบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองกรุงหยัน บนภูเขานับ 100 ไร่ พร้อมสั่ง กก.สอบเอาผิดผู้ใหญ่-กำนัน

วันนี้ 30 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เกิดการบุกรุกตัดโค่นต้นไม้ใหญ่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาขาว-ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกรุงหยัน รอยต่อระหว่าง อ.ทุ่งสง และ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช พบว่า บุกรุกแผ้วถางเป็นวงกว้างมากกว่า 20 แปลง แต่ละแปลงมีพื้นที่กว้างขวางหลายสิบไร่

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจยึดรังวัดและสำรวจความเสียหาย ด้วยพิกัดทางดาวเทียมอย่างละเอียด บางแปลงมีการปลูกทุเรียนเต็มพื้นที่แล้ว อีกหลายแปลงอยู่ในระหว่างการโค่นล้มไม้ขนาดใหญ่ และบุกรุกไปจนถึงสันภูเขาในพื้นที่อย่างมโหฬาร นอกจากนั้นยังพบร่องรอยของเครื่องกลหนักที่ถูกเร่งขนย้ายออกจากพื้นที่หลังจากเกิดเป็นกระแสข่าว

ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ 30 ม.ค.2566 นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย รองผู้อำนวยการ กร.รมน.ฝ่ายทหาร ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ผู้บริหารสำนักบริหารทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 กรมป่าไม้ ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่โดยตรงได้หาเรือกัน

โดย พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช รายงานในส่วนของการดำเนินคดีที่มีการแจ้งความแล้วในส่วนของอำเภอทุ่งสง โดยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาขาว ในท้องที่ตำบลเขาขาว อำเภอทุ่งสง ซึ่งส่วนนี้แจ้งความแล้วตั้งแต่วันแรก ๆ คาดว่าจะสามารถเสนอขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายแรกได้ใน 1-2 วันนี้

ด้าน นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับแปลงที่ถูกบุกรุก โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้รายงานการยืนยันจากภาคพื้นดินแล้วว่า ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาขาวจำนวน 8 แปลง เนื้อที่รวม 74 ไร่ ส่วนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกรุงหยัน ใน อ.ทุ่งใหญ่ มีเนื้อที่ 4 แปลงรวม 50 ไร่ รวม 2 แปลงจำนวน 124 ไร่

นอกจากนี้ได้สอบถามถึงการดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้รายงานว่า ได้อ้างสิทธิขอใช้พื้นที่แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตและยังไม่ได้แจ้งความ แต่ต้องดำเนินคดีโดยเร็วเพราะสังคมให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อไม่ได้รับอนุญาตจึงต้องดำเนินคดี และจะแจ้งความในวันนี้

นายอภินันท์ เปิดเผยว่า การรายงานเข้ามาในขณะนี้เป็นข้อมูลการตรวจพบล่าสุดที่มีการบุกรุก และได้สั่งการให้ตรวจสอบทั้งหมด รวมทั้งแปลงที่ปลูกอาสินไปแล้วด้วย ซึ่งหากมีความผิดต้องดำเนินการ

นอกจากนั้นยังสั่งให้นายอำเภอในพื้นที่ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ แล้วหากพบความผิดต้องดำเนินการทางวินัยด้วย เช่นเดียวกับฝ่ายท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินการแล้วเช่นกัน

นายอภินันท์ บอกว่า ความยากในคดีนี้คือการรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากการเข้าไปของเจ้าหน้าที่โดยตนเองด้วยนั้นไม่พบเครื่องจักรหรือบุคคลใดอยู่ในพื้นที่ การดำเนินการต้องอยู่ในระบบคือต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ปัญหาอีกประการคือ การไม่ได้รับความร่วมมือจากพยานหรือผู้ที่ทราบข้อมูล

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีข้อมูลสามารถแจ้งมาที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้โดยตรง เพื่อเร่งดำเนินการเรื่องนี้ตามกฎหมายให้เร็วที่สุด