โคเนื้อเขาชัยสนชูแปรรูป ลุยตลาดออนไลน์ทั่วไทย

โคเนื้อ

“โคเนื้อพรีเมี่ยมเขาชัยสน” พัทลุง รุกทำแบรนด์ “Phatthalung Lake Beef” ตีตลาดทั่วไทย พร้อมแปรรูปผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าเร่งทำแพ็กเกจจิ้งลุยตลาดทุกรูปแบบ

นางจำเนียร เจียมสวัสดิ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อ ไทยเขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า วิสาหกิจชุมชนโคเนื้อไทยเขาชัยสน ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมผู้เลี้ยงโคเนื้อพื้นเมืองรอบลุ่มน้ำทะเลสาบพัทลุง มาปรับปรุงพันธุ์เป็นโคเนื้อลูกผสม

โดยการผสมพันธุ์กับโคสายพันธุ์อินเดียและสายพันธุ์ยุโรป เป็นโคเนื้อลูกผสมสามสาย ถือเป็นเนื้อโคขุนอัตลักษณ์แห่งลุ่มน้ำทะเลสาบพัทลุง ปัจจุบันได้พัฒนาให้มีความโดดเด่น และทำตลาดอย่างจริงจังมาประมาณ 6 เดือน รวมถึงตลาดออนไลน์ หลายจังหวัด มีการตอบรับที่ดีมาก

กำลังจะขยายตลาดไปฝั่งอันดามันแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก จ.ภูเก็ต แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างพัฒนาแพ็กเกจจิ้ง เมื่อสำเร็จจะทำตลาดทุกรูปแบบ รวมถึงการทำแบรนด์ Phatthalung Lake Beef”

เนื้อโคขุนอัตลักษณ์แห่งลุ่มน้ำทะเลสาบพัทลุง ถือเป็นจุดขายสำคัญในการทำตลาด ทั้งโคเนื้อมีชีวิต การชำแหละแปรรูปตัดแต่งเนื้อขายแบบแยกส่วน นอกจากนี้ทางกลุ่มได้มีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มากกว่า 10 ผลิตภัณฑ์ เช่น เนื้อชาบู สเต๊ก ไส้กรอก ลูกชิ้น เนื้ออบแห้ง ฯลฯ ส่งขายให้กับบริษัทคู่ค้าและลูกค้าทั่วไปภายในจังหวัดและต่างจังหวัด

โดยราคาขายเป็นชิ้นส่วนมีราคาตั้งแต่ 250-700 บาท ทั้งนี้ ราคาขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนว่าเป็นเนื้อส่วนใด ซึ่งในการทำตลาดจะเหมาะสมกับตลาดเมืองไทยทั้งตลาดระดับกลางและระดับบน

“ทุกวันนี้มีการชำแหละโคเนื้อประมาณ 4-10 ตัว ขนาดตั้งแต่ 550-700 กก./ตัว โดยรับซื้อโคเนื้อจากสมาชิกตามขนาดราคา 100-110 บาท/กก. และโคพรีเมี่ยมถึง 120 บาท/กก. เป็นราคาซื้อขายในกลุ่มสมาชิก

โดยภาพรวมมีมูลค่าเงินหมุนสะพัดประมาณ 400,000-500,000 บาท/เดือน ในขณะที่โคเนื้อทั่วไปขณะนี้ราคาตกต่ำ เพราะการส่งออกไปเวียดนาม และจีน มีปัญหาเรื่องสารตกค้างเป็นอุปสรรค”

ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อ ไทยเขาชัยสน แบ่งสมาชิกเป็น 3 คลัสเตอร์ กลุ่มสมาชิกเลี้ยงแม่โค กลุ่มเลี้ยงโคหลังหย่านม และกลุ่มสมาชิกเลี้ยงโคเพื่อแต่งซากก่อนจำหน่าย มีสมาชิก 45 ราย โคเนื้อ 452 ตัว บริหารจัดการรูปแบบแยกกันเลี้ยง รวมกันซื้อปัจจัยการผลิต และรวมกันขาย


โดยเลี้ยงครบวงจรหลายสายพันธุ์ไม่มีการใช้อาหารที่มีสารเร่งเนื้อแดง เลี้ยงแบบธรรมชาติ และรักษาสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย ไม่มีกลิ่น