เมืองรองท้าชิงตั้ง “กาสิโน” “เชียงราย-อุดรธานี” ชี้บูมท่องเที่ยว

จังหวัดเมืองรองขอเอี่ยวด้วย เสนอดึงเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าพื้นที่ เชียงรายดันสร้างที่ชายแดนเชียงแสน แลกหมัดกับกาสิโนคิงส์โรมัน ส่วนอุดรฯ-บุรีรัมย์ย้ำมีความพร้อมทุกด้าน และหากสร้างจริงจะดึงคนมาเที่ยวภาคอีสานมากขึ้น ส่วนสงขลา เล็งร่วมกับสถาบันการศึกษาทำวิจัยเชิงลึก เก็บข้อมูลพื้นฐาน ก่อนเสนอพื้นที่เหมาะสมผ่านจังหวัดไปถึงรัฐบาล

ความคืบหน้าการผลักดันโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และกาสิโน หลังจากรัฐบาลตั้งเป้าทำเป็นโครงการใหญ่ มีหลายจังหวัดเสนอตัว อยากให้เข้าไปตั้งในพื้นที่ อาทิ เชียงใหม่ สงขลา ชลบุรี เนื่องจากจะดึงดูดเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว และไม่เน้นเฉพาะกาสิโนเท่านั้น โดยต้องให้รัฐวางมาตรการควบคุมการเข้าของคนไทย ไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

เชียงแสนหวังสู้คิงส์โรมัน

นายจิระศักดิ์ นวปฏิภาณ รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ฝ่ายการค้าชายแดน อ.เชียงแสน เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หอการค้าจังหวัดเชียงราย อยากผลักดันให้รัฐบาลจัดตั้งโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในพื้นที่อำเภอเชียงแสน

เพราะมีคู่เปรียบอยู่ฝั่งตรงข้ามคือ เขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวกลับมาเชียงแสน ทำให้เชียงแสนมีความได้เปรียบในเชิงเปรียบเทียบเพิ่มมากขึ้น

รัฐบาลจะต้องลงทุน โดยจัดโซนนิ่งเป็นพื้นที่เฉพาะ ถ้าให้เอกชนลงทุนตัวใครตัวมันคงไม่ได้ ควรจะกันพื้นที่ให้แน่ชัดว่าอยู่บริเวณใด และในพื้นที่อาจมีกฎหมายพิเศษควบคุมเหมือนฝั่งคิงส์โรมัน ซึ่งรัฐบาลต้องจัดสรรพื้นที่ขึ้นมา และให้เอกชนเข้าไปลงทุนหรือสัมปทาน

โดยให้สิทธิพิเศษที่เอื้อต่อการลงทุน ถ้าอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษต้องมีข้อยกเว้นด้านกฎหมาย เพราะปัจจุบันเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย เป็นเพียงการออกประกาศเท่านั้น แต่ไม่มีอะไรพิเศษที่เป็นแรงดึงดูด

ADVERTISMENT

“อุดรฯ” สนใจ-ชี้มีศักยภาพ

นายธนกร วีระชาติยานุกูล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานีมีความเหมาะสมในการจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภาคอีสานตอนบน เชื่อมต่อไปจังหวัดข้างเคียง รวมถึง สปป.ลาว และยังเป็นจังหวัดที่ผู้ที่พำนักอยู่ใน สปป.ลาว ต่างเดินทางเข้ามาใช้บริการต่าง ๆ จำนวนมาก กิน ดื่ม สถานบันเทิง การบริการด้านสุขภาพ

รวมถึงเป็นจุดเชื่อมต่อในการเดินทางเข้า กทม. แต่สถานที่ในการจัดตั้งอาจต้องพิจารณาทำเลที่เหมาะสมไม่กระทบกับสถานที่สำคัญทางศาสนา จะส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในระดับที่สูงมาก

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลมีแนวคิดตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีนักธุรกิจในพื้นที่หลายราย สอบถามถึงพิกัดการลงทุนกาสิโนในจังหวัดอุดรธานีว่าจะอยู่จุดไหน โดยมีแหล่งข่าวนักธุรกิจบางรายเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หากจังหวัดอุดรธานี เป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนกาสิโนจริง ก็อยากจะร่วมลงทุนกับภาครัฐด้วย

“บุรีรัมย์” มีครบองค์ประกอบ

นายณัชอิสร์ ศรีสุขพรชัย ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครชัยบุรินทร์) และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จังหวัดบุรีรัมย์มีความพร้อมหลายด้านในการจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะมีสนามบิน โรงแรมที่พักต่าง ๆ สถานที่ท่องเที่ยว ที่ผ่านมาทางจังหวัดบุรีรัมย์พยายามผลักดันให้เป็นเมืองท่องเที่ยว เพื่อกระจายรายได้ สร้างแรงจูงใจในการสร้างงานได้

ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องมั่นใจว่าสามารถกำกับดูแลผลกระทบต่าง ๆ ได้ พร้อมกับกำหนดเงื่อนไขอย่างเข้มงวด เช่น คุณสมบัติของบุคคลที่สามารถเข้ากาสิโนได้, ในพื้นที่ 100% มีสัดส่วนพื้นที่กาสิโนกี่เปอร์เซ็นต์, มีพื้นที่อื่น ๆ สำหรับท่องเที่ยวและดึงนักท่องเที่ยวให้ได้มากกว่า 1 คืน

“ที่ผ่านมาปัญหาของกาสิโน ทำให้รายได้ไหลออกนอกประเทศไปยังฝั่งชายแดนทั้งหมด รัฐบาลต้องวางกลยุทธ์เชิงรับและเชิงรุกให้เหมาะสม เช่น คนไทยต้องวางวงเงินควบคุมดูแลอย่างชัดเจน ไม่สร้างปัญหาให้กับผู้เล่นเอง ควบคุมให้เหมือนต่างประเทศ เช่น มาเก๊า วัตถุประสงค์หลักคือเปิดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องตีกรอบกลุ่มเป้าหมายหลักให้ชัดเจน และดึงรายได้จากธุรกิจสีเทาที่เคยซุกพรมขึ้นมา และจัดเก็บภาษีถูกกฎหมายได้มากขึ้น”

หวังดึงคนมาอีสานเพิ่ม

นายณัชอิสร์กล่าวอีกว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ควรตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดที่มีศักยภาพเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลัก ๆ แล้วหัวเมืองที่มีนักท่องเที่ยวอยู่แล้วจะเป็นเรื่องที่ดี ถ้าจะสร้างในพื้นที่ที่ไม่มีอะไรเลย ต้องสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา จะต้องไม่ทิ้งร้างเหมือนกับสีหนุวิลล์ กัมพูชา รัฐบาลจะต้องมั่นใจว่าสามารถทำได้จริง หรือมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เป็นแรงจูงใจกระตุ้นการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในภาคอีสานน้อยมากเมื่อเทียบกับเมืองเชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ถ้าเราจะกระตุ้นการท่องเที่ยวและดึงคนเข้ามาในพื้นที่ให้เกิดการจ้างงาน นั่นหมายความว่าเรากำลังมองจุดด้อยให้เป็นจุดเด่นและพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเหมือนกับที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

สงขลาเอาจริงเสนอรัฐบาล

นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ทางหอการค้าจังหวัดสงขลาและภาคเอกชน หารือเกี่ยวกับนโยบายการจัดตั้งโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีแนวคิดจะร่วมกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เก็บข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับองค์ประกอบในการจัดตั้ง ต้องมีโรงแรม ที่พัก ศูนย์การค้า ร้านค้า หรือสวนสนุก

ดังนั้นต้องเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นการสร้างเมืองใหม่ การเลือกสรรพื้นที่ลงทุน ได้พิจารณาเห็นว่า บริเวณ อ.หาดใหญ่ และบ้านด่านนอก อ.สะเดา ชายแดนไทย-มาเลเซีย ต่างมีความพร้อมในการลงทุน โดยจะทำเป็นตัวเลือก A B C นำเสนอต่อทางจังหวัด เพื่อให้ผลักดันนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาลต่อไป

ผลักดันมากว่า 10 ปีแล้ว

ด้านนายธนวัฒน์ พูนศิลป์ ประธานที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดสงขลาเคยผลักดันตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มากว่า 10 ปีแล้ว ครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่จะลงทุน โดยเฉพาะบริเวณบ้านด่านนอก เป็นเมืองที่เหมาะสมที่สุด หรือที่ อ.นาหม่อม พื้นที่รอยต่อ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต้องใช้เนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ ต้องลงทุนหลัก 10,000-100,000 ล้านบาท ถ้าเป็นนักลงทุนท้องถิ่นจะไม่มีศักยภาพ ยกเว้นนักลงทุนจากส่วนกลาง และนักลงทุนต่างชาติ จะช่วยสร้างรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ อย่างมหาศาล

ดันตั้ง เขต ศก.ท่องเที่ยวสงขลา

ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่สงขลา กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากการสำรวจกลุ่มผู้ประกอบการบริเวณพื้นที่บ้านด่านนอก เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยในการจัดตั้งโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะจะสร้างรายได้เพิ่มให้กับคนในพื้นที่ ขณะที่ผู้ประกอบการส่วนน้อยแสดงความกังวลเกี่ยวกับผู้ที่จะเข้าไปใช้บริการกาสิโน ต้องการให้ภาครัฐวางมาตรการและเงื่อนไขในการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ

ขณะเดียวกัน อยากนำเสนอรัฐบาลให้ปรับเปลี่ยนนโยบาย “โครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา” จากที่เน้นแต่ภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ซึ่งยังไม่ประสบผลสำเร็จ เปลี่ยนเป็น “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา” แทน