ล้งมึนจีนพบ “แคดเมียม-BY2” ผ่านแล็บไทยรับรองปลอดสาร

Dyed Durian

ถึงวันนี้ความโกลาหลอลหม่านของทุเรียนไทยแสนล้านบาท ยังไม่จบ หลังสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) แจ้งพบการใช้สารย้อมสี Basic Yellow 2 หรือ BY2 ซึ่ง WHO ระบุเป็นสารก่อมะเร็ง โดยจีนกำหนดให้แนบใบผลตรวจปลอดสาร BY2 และแคดเมียมในการส่งออกไปจีนตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568

ล่าสุดมีรายงานข่าวล่าสุดจากจังหวัดชุมพรแจ้งว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ไทยตรวจพบสาร BY2 จากผู้ประกอบการ 19 ล้ง โดยที่ยังไม่ได้ส่งออก ทำให้ล้งหยุดรับซื้อทุเรียน และยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งกำหนดระยะเวลาระงับ DOA แต่ “ล้ง” ทั้งหมดยืนยันว่า “ไม่มีการใช้สารชุบย้อมสีแน่นอน” และไม่ได้รับซื้อทุเรียนที่มีคราบยา ขั้ว เปลือกสีขาว สีน้ำเงิน สีเขียว คาดว่าล้งที่เปิดรับซื้อทุเรียนทวาย (ทุเรียนนอกฤดู) จะลดลง และที่เหลืออยู่จะไม่กล้าเสี่ยงเปิดรับซื้อต่อไป

ผนึกกำลังสร้างความเชื่อมั่น

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 นายภาณุวัชร์ ไหมแก้ว นายกสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด และนายกมล ภูมิพงศ์ไทย นายกสมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ ได้ส่งหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี, หัวหน้างานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง, สมาคมนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรไทย-จีน, หอการค้าจังหวัดจันทบุรี, สมาคมทุเรียนไทย (TDA), สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออก, สมาคมผู้ผลิตทุเรียน และกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ภาคตะวันออก เรื่องการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ สำหรับการส่งออกทุเรียนไทย

โดยสาระสำคัญของหนังสือระบุว่า ตามที่ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายเร่งด่วนให้ขับเคลื่อน “นโยบายผลไม้ปลอดภัย มีคุณภาพ สำหรับการบริโภคในประเทศและส่งออก” และเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ผู้ส่งออก และเกษตรกร ต้องปฏิบัติตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่องมาตรการควบคุมการปนเปื้อนสารห้ามใช้ในทุเรียนผลสด พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 9 มกราคม 2568

และมาตรการ 4 ไม่ ได้แก่ 1.ไม่อ่อน 2.ไม่หนอน 3.ไม่มีสวมสิทธิ และ 4.ไม่มีสี/ไม่มีสารเคมีต้องห้าม ทางภาครัฐสนับสนุนให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุทุเรียนไทยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ทั้งทางภาพลักษณ์ และทางด้านคุณภาพตามที่มาตรฐานสินค้าส่งออกกำหนด ภายใต้หลักมาตรการ 4 ไม่

ทางสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด และสมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ ได้ทำความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศ ล้งรับซื้อ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติ ทางสมาคมจึงขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันการส่งออกทุเรียนไทยไปประเทศจีนคือ

ADVERTISMENT

Dyed Durian

1.ผนวกความร่วมมือล้ง ขอให้ผู้ประกอบการทำความสะอาดในสถานประกอบการ (Big Cleaning) พื้นที่และอุปกรณ์ปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสีและสารเคมี เพื่อลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนให้ได้มากที่สุด พร้อมให้ช่วยประชาสัมพันธ์ การทำความสะอาดล้งทางสื่อออนไลน์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและนักลงทุนต่างชาติ

ADVERTISMENT

2.รณรงค์กลุ่มเครือข่ายสมาคมและเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ขอความร่วมมือจากกลุ่มสมาคมช่วยประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและชาวสวนทุเรียนร่วมทำกิจกรรมตรวจก่อนตัด ทั้งการตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งทุเรียน การตรวจสารแคดเมียม (Cd) และการตรวจสารย้อมสี Basic Yellow 2 (BY2) พร้อมทั้งแนบผลรับรองการตรวจให้กับผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุก่อนตัด เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขายและผู้ซื้อ

3.สนับสนุนหน่วยงานรับรองการตรวจทดสอบสารทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงานของห้องปฏิบัติการตรวจทดสอบสารและรับรองผล ควรมีการจัดตั้งศูนย์ตรวจทดสอบสารภายในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับทั้งเกษตรกรชาวสวนและล้ง ได้มีศักยภาพในการแข่งขันด้านธุรกิจผลไม้ทั้งระบบครบวงจร

ขั้นตอนตรวจช้าผลแตก-รา

นายมณฑล ปริวัฒน์ รักษาการนายกสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด และที่ปรึกษาสมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ เปิดเผย“ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้กำลังพบปัญหาใหม่ มีทุเรียนแตกเป็นราเสียหายจำนวนมาก หลังผ่านการตรวจรับรองจากด่านจีนว่าปลอดสารแคดเมียมและ BY2 ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2568 ซึ่งยังไม่ทราบปัญหาที่แท้จริง ว่าเกิดจากระยะเวลาการตรวจหาสารปนเปื้อนที่ล่าช้าตั้งแต่ด่านไทยกว่าจะไปถึงด่านจีน หรือสาเหตุอื่น ๆ

ดังนั้น จึงเสนอให้หาทางแก้ไขร่วมกันและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยในเรื่องระยะเวลาตรวจอยากให้ดำเนินการให้รวดเร็วมากขึ้น และค่าใช้จ่ายที่เป็นเหตุเป็นผล เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคและนักลงทุน

ปัญหาสาร BY2 ตกค้าง ล้งพบสาเหตุชัดเจนมาจากการชุบสี จะเริ่ม Bic Cleaning ในล้ง ทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ตู้คอนเทนเนอร์หลังเทศกาลตรุษจีน ส่วนชาวสวนยังไม่ชัดเจนว่าแคดเมียม และ BY2 มาจากสวน แต่มาตรฐาน GAP และ GAP Plus (ช่วงโควิด-19) มีควบคุมอยู่แล้ว และน่าจะต้องตรวจดิน น้ำ และดูที่ปัจจัยการผลิต ปุ๋ย ยา สารเคมี และกระบวนการผลิต ทั้งนี้ ต้องสร้างองค์ความรู้ให้เกษตรกรเรื่องความปลอดภัย ไม่โฟกัสที่ตลาดมากเกินไป

“เป็นโอกาสที่จะยกระดับทุเรียนไทย เป็นความร่วมมือกันทั้งผู้ประกอบการและเกษตรกร โดยตัวแทนเกษตรกรยินดีที่จะนำร่อง ซึ่งการตรวจผลทุเรียนจากสวน ทางสถาบันการศึกษาพยายามที่จะหาวิธีตรวจสอบ ใช้เครื่องมือ แบบ Smart Kid ให้ชาวสวนเคลียร์ตัวเองเบื้องต้นก่อนมาตรวจแล็บ เป็นการยอมรับระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย ส่วนการตรวจห้องแล็บมหาวิทยาลัยที่ยังไม่ได้รับการรับรอง และยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ให้เป็นการตรวจที่เรารับรองตัวเองก่อน แบบ Internal Audit ให้ได้รับความเชื่อมั่น จากนั้นพัฒนาเป็น External Audit เสนอให้กรมวิชาการเกษตรรับรอง และส่งให้ทางจีนรับรอง สามารถให้บริการตรวจสอบและออกใบรับรองได้”

Dyed Durian

จีนพบแคดเมียม-BY2 อีก

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการส่งออกในภาคใต้เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าล่าสุดมีล้งรายใหญ่ในจังหวัดชุมพร ลงทุนเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด รวมถึงตู้คอนเทนเนอร์ชิปปิ้งการันตีใหม่เพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารแคดเมียมและ BY2 ทำตามข้อกำหนดมาตรการทุกอย่าง และได้ซื้อทุเรียนส่งออกไปทั้งหมด 55 ตู้ โดยมีใบเอกสารแนบปลอดสารแคดเมียมและ BY2 จากไทยไปถึงด่านจีนแล้ว 13 ตู้ ปรากฏว่าตรวจผ่าน 11 ตู้ปลอดสาร แต่ไม่ผ่าน 2 ตู้ พบสารแคดเมียมและ BY2

แต่ได้ขอยื่นอุทธรณ์ทางด่านจีนตรวจซ้ำ เพราะก่อนส่งออกทางห้องแล็บไทยได้สุ่มเก็บตัวอย่างทุเรียน 5 ลูกต่อตู้ไปตรวจแล้วทุกตู้ และออกใบรับรองว่าปลอดสาร จึงอยากให้ทางการจีนตรวจซ้ำอีกครั้ง ว่าผลแล็บอาจจะคลาดเคลื่อนหรือไม่

“การตรวจซ้ำจะช่วยประวิงเวลาได้อีก 3-4 วัน เพราะหากตรวจพบตู้จะถูกตีกลับ และโรงคัดบรรจุหรือล้งจะถูกระงับเลข DOA ในการส่งออก ในที่สุดต้องปิดล้ง ตู้ที่เหลืออีก 40 กว่าตู้ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาทที่กำลังเดินทางไปหน้าด่าน ไทย เวียดนาม จีน จะเสียหายไปด้วย และตอนนี้จีนหยุดตรวจ ติดเทศกาลตรุษจีน จะเปิดทำการอีกครั้งวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ถ้าติดที่ด่าน 20 วัน ถ้าผ่านด่านเข้าไปขายราคาถูกในจีนดีกว่าขนกลับมา ต้นทุน 1,000 หยวน ขายได้ 300-500 หยวน หากถูกระงับตีกลับจะต้องนำมาเผาทำลาย ล้งที่ถูกระงับ DOA หากจะตั้งบริษัทใหม่ เพื่อขอเลข DOA เพื่อส่งออกใหม่ต้องรอ 1 ปี หรือในไทยสั่งระงับ 3 วันให้ย้ายเลข DOA ได้ แต่จะย้ายไปไหนนอกจากสวมสิทธิคนอื่น ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหา”

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า ล้งใหญ่ ๆ ในภาคใต้ถูกระงับ DOA ห้ามส่งออกไป 10 กว่าล้ง แต่ล้งเหล่านี้ปริมาณที่ซื้อทุเรียนได้ 50-70% ของทุเรียนทั้งหมด/วัน และยังต้องซื้อทุเรียนต่อ เพราะมีสวนที่เหมาซื้อไว้ล่วงหน้า 30 สวน ถ้าส่งออกไม่ได้ ต้องหาคนมารับช่วงต่อ

Dyed Durian

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขั้นตอนการตรวจทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายจีนถือว่ายังล่าช้ามาก หวั่นเกรงจะเกิดปัญหาการตรวจด่านจีนช่วงพีกฤดูกาลทุเรียนภาคตะวันออกจะมีตู้ทุเรียนออกวันละ 1,200-1,500 ตู้ ด่านจีนตรวจ 100% ต้องตรวจทุกตู้ สุ่มตู้ละ 2-6 ลูก ตรวจได้วันละ100 ตู้ ได้รับผล 4-5 วัน วันละ 1,200 ตู้ 4 วัน 4,800 ตู้ต้องติดหน้าด่าน รวมระยะเวลาตรวจในไทย 3 วัน เดินทาง 3-5 วัน ตรวจด่านจีน 4-5 วัน ถ้าซื้อทั้งประเทศ 1 วัน ต้องหยุด 10 วัน” แหล่งข่าวกล่าว

อย่างไรก็ตาม มาตรการ Set Zero ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ถ้าไม่เจอต้นตอของสารแคดเมียม BY2 สร้างความหวั่นวิตกให้กับล้ง ถ้าเจอทุเรียนใช้ยาตกค้างในสวน เชื่อว่าถ้าไม่เร่งหาสาเหตุและแก้ปัญหาเร่งด่วนจะทำให้ล้งขาดความเชื่อมั่นไม่กล้าลงทุน จากสภาพภูมิอากาศภาคใต้ ฝนตกต้องฉีดยากันเชื้อราไฟทอปธอร่า ต้องรอ 15 วันตัดขาย หรือการใส่ปุ๋ยสูตร เลขตัวหลังสูง ๆ 0-0-50 ให้ลูกใหญ่ เปลือกหนาให้ได้น้ำหนัก

การใช้ยาเป็นเกล็ดผงพ่นลูกไม่มีใครคิดว่าสีตกค้างที่เปลือกจะเป็นปัญหา หน่วยงานภาครัฐต้องลงทุนตรวจความปลอดภัยการใช้ปุ๋ย ยา และให้ใช้ทิศทางเดียวกัน

และให้ความรู้กับเกษตรกรให้ใช้อย่างรอบคอบ การตรวจผ่านห้องแล็บไทยเป็นการสุ่มตรวจ อาจจะมีทุเรียนจากสวนติดแคดเมียม สาร BY2 จึงควรเข้มงวดกับการผลิตตั้งแต่ในสวน ควรตรวจดินแต่ละพื้นที่ที่ใกล้เหมือง ปุ๋ย ยา ที่เกษตรกรใช้