ข้าวเปลือกสังข์หยด GI พุ่ง 2.5 หมื่นบ./ตัน

แฟ้มภาพประกอบข่าว

ชาวนาพัทลุงมีเฮ “ข้าวเปลือกสังข์หยดเมืองพัทลุง GI” ราคาพุ่ง 25,000 บาทต่อตัน ยอดออร์เดอร์ทะลัก คาดผลผลิตที่จะออกกุมภาพันธ์-มีนาคม 2562 ไม่พอ เผยชาวสวนโค่นปาล์มน้ำมันหันมาทำนาข้าวพื้นเมืองเพิ่ม

นายศิลป์ชัย รามณีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ถือเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัด ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศรับรองให้เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2549 นับเป็นข้าว GI พันธุ์แรกของประเทศไทย ที่ได้รับรองเป็นสินค้าดังกล่าว ปัจจุบันกระบวนการผลิตข้าวสังข์หยด เป็นการผลิตข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือ โดยผ่านระบบจัดการคุณภาพ GAP ที่ใส่ใจต่อสุขภาพผู้บริโภค ปลอดภัยจากสารตกค้าง ภายใต้การควบคุมคุณภาพของคณะกรรมการรับรองคุณภาพข้าวสังข์หยดพัทลุง

แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงที่ได้รับหนังสืออนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ GI ไทย มีเพียง 25 ราย และในจำนวนดังกล่าว มีผู้ประกอบการที่ได้หนังสือรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากสหภาพยุโรป (EU) จำนวน 13 ราย ดังนั้น ทางจังหวัดพัทลุงได้ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง เกษตรและสหกรณ์จังหวัด สหกรณ์จังหวัด และพาณิชย์จังหวัดขับเคลื่อนการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตข้าวสังข์หยดให้แก่ผู้ประกอบการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรสูงขึ้นกว่าเดิม และนำไปสู่การได้รับหนังสืออนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ GI ไทยให้มากยิ่งขึ้นต่อไป

นายนัด อ่อนแก้ว ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านเขากลาง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง อดีตนายกสมาคมผู้ผลิตและค้าข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันชาวนาพัทลุงสามารถผลิตข้าวสังข์หยดได้คุณภาพที่ดี ทำให้มีความต้องการของตลาดเข้ามามาก แม้จะมีปริมาณผลผลิตที่มากขึ้น แต่ยังผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค ส่งผลให้ราคายังขยับเคลื่อนไหวขึ้น และมีเสถียรภาพ ถือเป็นทิศทางอนาคตที่ดีของชาวนาพัทลุง

ทั้งนี้ ปัจจุบันพัทลุงมีพื้นที่ปลูกข้าวสังข์หยดประมาณ 20,000 ไร่ โดยให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 400 กิโลกรัม/ไร่ ส่วนราคาพันธุ์ข้าว 26 บาท/กิโลกรัม ข้าวเปลือกแห้ง 20 บาท/กิโลกรัม หรือประมาณ 20,000 บาท/ตัน และข้าวสาร ราคา 50 และ 120 บาท/กิโลกรัม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ด้วย หากขายปลีกบรรจุภัณฑ์สวยงามจะสามารถทำราคาได้เพิ่มขึ้นอีก

“อย่างตลาดสหภาพยุโรปมีความต้องการเข้ามา แต่ผู้ประกอบการทั่วไปที่ได้ GI ไทย ยังไม่สามารถส่งออกไปได้ จะต้องมี GI ของสหภาพยุโรปก่อน” นายนัดกล่าวและว่า

นายสุทธิพร กาฬสุวรรณ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวและกลุ่มชาวนาภาคใต้ และอุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ปีนี้สถานการณ์ภาพรวมการปลูกข้าวของชาวนาทางภาคใต้มีปริมาณเพิ่มขึ้น รวมพื้นที่ประมาณ 400,000 ไร่ เนื่องจากชาวสวนปาล์มน้ำมัน เริ่มโค่นปาล์มน้ำมัน หันมาทำนาข้าวแทน ภายหลังจากราคาปาล์มน้ำมันลดต่ำลงมาก ขณะที่ราคาข้าวเปลือกสายพันธุ์พื้นเมืองหลายชนิดสามารถขายได้ราคาที่ดี ในระดับความชื้นไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์ ข้าวสังข์หยด ขายได้ราคากว่า 15,000 บาท/ตัน ข้าวสายพันธุ์เล็บนก ราคา 9,500 บาท/ตัน และข้าวเฉี้ยง ราคาใกล้กัน ส่วนข้าวทั่วไป กข. ราคา 7,000-7,500 บาท/ตัน

“ช่วงที่ปาล์มน้ำมันราคาดี พื้นที่หลายแห่งในภาคใต้เปลี่ยนนาข้าวหันไปปลูกปาล์มน้ำมันแทน จนนาข้าวมีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช นาข้าวถูกปาล์มน้ำมันรุกเข้าไปแทนที่ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์” นายสุทธิพรกล่าว

แหล่งข่าวจากสำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า ปัจจุบันข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงมีพื้นที่ปลูกประมาณ 20,000 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 8,000 ตัน/ฤดูกาล และขณะนี้โดยเฉพาะข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง GI ได้มีการเริ่มสั่งจองล่วงหน้ากันแล้ว ราคาประมาณ 15,000-17,000 บาท/ตัน และราคาที่ท้องตลาดได้ขยับขึ้นมาที่ 25,000 บาท/ตัน แต่ข้าวไม่มี จึงมีแนวโน้มว่าในฤดูกาลหน้าจะมีการหันมาทำนาข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงกันเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เกรงว่าหากมีการปลูกกันเพิ่มขึ้นมาก อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาเช่นกัน

“ตอนนี้ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง GI ในประเทศฝรั่งเศส เรียกว่าข้าวเทวดา มีราคาเกือบเป็นหมื่นบาทต่อกิโลกรัม เริ่มทยอยส่งออกเพียงเล็กน้อย” แหล่งข่าวระบุ

รายงานข่าวจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้ข้าวสังข์หยดที่ได้รับ GI มีความต้องการเข้ามาจากหลายประเทศทั่วโลก แต่ยังไม่สามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการ โดยปัจจุบันส่งออกไปขายหลายตลาด เช่น สหรัฐอเมริกา จีน และมาเลเซีย ขณะที่ตลาดสหภาพยุโรปนั้น ปัจจุบันหนังสือรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ที่ผู้ประกอบการ 13 รายได้รับมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2559 ได้หมดอายุลงแล้ว และจะต้องเตรียมทำเรื่องขอต่อใบอนุญาตใหม่

ส่วนผู้ผลิตข้าวสังข์หยดที่ไม่ผ่านกระบวนการ GI ปีนี้ถือว่าขายดีมาก สะท้อนให้เห็นว่า คนเริ่มให้ความสำคัญต่อสุขภาพ ทั้งนี้ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2562

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!