ธุรกิจสปาสูญ 5 พันล้าน ภูเก็ต-พัทยา ซบหนักปิดกิจการ 80 %

โควิดพ่นพิษธุรกิจ “ร้านสปา” ทรุดหนัก ผู้ประกอบการจังหวัดภูเก็ตระบุสูญรายได้รวมกว่า 5,000 ล้าน/ปีนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติไม่กล้าใช้บริการ

ด้านผู้ประกอบการเมืองพัทยาแห่ปิดกิจการชั่วคราวกว่า 50% วอนรัฐบาลช่วยเหลือพักชำระหนี้-เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ชี้แนวโน้มธุรกิจฟื้นตัวยากพนักงานหายมากกว่าครึ่ง คาดสถานการณ์ดีขึ้นกลางปี’65

ภูเก็ตตายสนิทสูญ 5 พันล้าน

นางรัตนดา ชูบาล นายกสมาคมสปาเพื่อสุขภาพภูเก็ต เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ภาพรวมธุรกิจร้านสปาจังหวัดภูเก็ตปิดตัวชั่วคราวกว่า 80% จากเดิมเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มากกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี

ตอนนี้รายได้กลายเป็นศูนย์ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 95% คนไทย 5% แต่ปัจจุบันไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย และช่วงที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวไทยประหยัดค่าใช้จ่ายและไม่กล้าเดินทางออกจากบ้าน อีกทั้งตอนนี้ธุรกิจสปาถูกดิสรัปต์ไป

โดยผู้ใช้บริการระหว่างลูกค้ากับพนักงานต่างคนต่างไม่ไว้ใจกัน เพราะกลัวการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แนวโน้มธุรกิจจึงน่าจะฟื้นตัวยาก

“สถานการณ์คงเหมือนกันเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดมีรายได้จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งที่ผ่านมาโครงการหรือมาตรการของภาครัฐไม่มีส่วนในการช่วยเหลือธุรกิจสปาเลย

อาทิ โครงการเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง แต่ล่าสุดโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ได้มีการเพิ่มวงเงินและเงื่อนไขในการใช้คูปองให้สามารถใช้ในธุรกิจสปาหรือนวดเพื่อสุขภาพได้ แต่ก็มีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่มาอีก เราก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา

อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือในเรื่องการพักชำระหนี้ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพราะผู้ประกอบการยังต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายอยู่ เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ ร้านสปาบางแห่งที่ยังเปิดให้บริการก็ต้องดูแลพนักงานและจ่ายเงินเดือน ตามข้อตกลงระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งก็จะมีการแก้ปัญหาแตกต่างกันออกไป”

สำหรับธุรกิจร้านสปาและร้านนวดเพื่อสุขภาพในจังหวัดภูเก็ต มีการขึ้นทะเบียนถูกกฎหมายประมาณ 600 แห่ง แบ่งเป็นร้านสปา 150 แห่ง และร้านนวดเพื่อสุขภาพประมาณ 450 แห่ง มีพนักงานเกือบ 10,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัด 80%

ตอนนี้ก็มีการปรับตัวไปทำธุรกิจอย่างอื่น เช่น ขายของออนไลน์ ขายอาหาร เป็นต้น คนออกจากวงการสปาไปเยอะมาก ตอนนี้ที่ยังเป็นพนักงานอยู่ก็ประมาณ 1,000-2,000 คน

พัทยาโอด นักท่องเที่ยวหาย

นายชัยรัตน์ รัตโนภาส นายกสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออก และเจ้าของสปา ศิลาวดี พัทยา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ธุรกิจสปาในพัทยาและพื้นที่จังหวัดชลบุรีอาศัยนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก ในการระบาดของโควิด-19 รอบแรก

ผู้ประกอบการปิดตัวชั่วคราวเกินกว่า 50% มีบางร้านหันมารับนักท่องเที่ยวไทย แต่คนไทยก็มีความกังวลเรื่องความปลอดภัย รวมไปถึงประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น ธุรกิจจึงไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้มากนัก

และช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเกิดการระบาดรอบใหม่ โดยภาพรวมปิดทำการเกือบทั้งหมด ซึ่งส่งผลกระทบในระยะยาวจนเกิดความเสียหาย 100% ไม่ว่าจะเป็นร้านขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการหลายรายลดขนาดกิจการลงมาเกินกว่าครึ่งทั้งขนาดและจำนวนพนักงาน พนักงานหลายคนที่ส่วนใหญ่มาจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดินทางกลับภูมิลำเนาตนเองไป และไม่แน่ว่าหลังจากสถานการณ์ดีขึ้นจะกลับเข้ามาทำงานในพื้นที่อีกครั้งหรือไม่

ทำให้ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ โดยภาพรวมคาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้กลางปี-ปลายปี 2565 แต่ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้ใช้บริการว่าจะมีหรือไม่

นายชัยรัตน์กล่าวว่า ตามปกติของธุรกิจสปาในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวรับนักท่องเที่ยวไม่ขาดสาย รวมถึงลูกค้าจากกรุ๊ปทัวร์ด้วย รายได้ของพนักงานเฉลี่ยไม่รวมทิปประมาณ 35,000 บาท/คน

สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในตลาดมหาศาล แต่เมื่อธุรกิจชะลอตัวไปกว่าจะฟื้นตัวกลับมาหลังโควิด-19 น่าจะค่อนข้างยาก เหมือนต้องมาเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้ง เพราะรัฐบาลยังไม่มีนโยบายเข้ามาบรรเทาความเดือดร้อนในธุรกิจกลุ่มนี้ มีเพียงมาตรการป้องกันการระบาดของโรคเข้ามาควบคุม

“ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงปัจจุบันในตอนนี้ เราก็มีร้องเรียนถึงรัฐมนตรีแรงงานโดยอยากรักษาธุรกิจไว้ รักษาสถานภาพการเป็นลูกจ้าง-นายจ้างไว้ ไม่อยากให้พนักงานออกไปนอกระบบ อยากให้รัฐบาลอาจจะช่วยผู้ประกอบการสักครึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น การพักชำระดอกเบี้ย

หรือลดดอกเบี้ยลง แม้ผู้ประกอบการหลายรายจะได้ซอฟต์โลนมา แต่เลือดก็ยังไหลไม่หยุด เพราะรายจ่ายมีเยอะมาก ส่วนรายได้ไม่มี ข้อเรียกร้องดังกล่าวเขาบอกต้องไปคุยกับธนาคารเอง

ซึ่งอำนาจการต่อรองของผู้ประกอบการกับเจ้าหนี้นั้นมีน้อย นอกจากนี้ โครงการของภาครัฐอย่างโครงการประชารัฐเราเที่ยวด้วยกัน เราก็ไม่สามารถเข้าร่วมได้ เรียกได้ว่าไม่ได้รับอานิสงส์อะไรเลย”

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของธุรกิจสปาทั้งประเทศเรียกได้ว่าน่าจะสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจไทยมากถึง 3-4 หมื่นล้านบาท มีสัดส่วนของพัทยาอยู่ประมาณ 20% หรือติด 1 ใน 3 ของเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการมากที่สุดของประเทศไทย

รวมการจ้างงานของธุรกิจนี้ทั้งจังหวัดชลบุรี 4-5 พันคน เป็นสมาชิกสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออก โดยไม่นับรวมที่ไม่ได้จดทะเบียนประมาณ 30 แห่ง จากเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีข้อมูลล่าสุดของผู้ประกอบการว่าจะเหลืออยู่กี่ราย และจะกลับมาเปิดกิจการได้อีกครั้งเมื่อไหร่