ปิดโรงงานอาหารทะเลสยามอินเตอร์ จ.สงขลา พบโควิดแรงงานไทย-เมียนมา

ปิด “โรงงานอาหารทะเล” พนักงาน 3,000 คน อ.จะนะ จ.สงขลา หลังพบกลุ่มพนักงานทั้งไทย เมียนมา ติดเชื้อ 65 คน เร่งตรวจหาเชื้อทั้งโรงงานเกือบ 3,000 คน ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 สงขลา ทะลุหลักพัน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน เป็นหญิงอายุ 91 ปี และชายอายุ 72 ปี รวมเป็น 5 คน

วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์โควิด-19 จ.สงขลา ยังคงพบการระบาดของคลัสเตอร์กลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในบริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนลฟู๊ด จำกัด ผู้แปรรูปผลิตอาหารทะเล อ.จะนะ จ.สงขลา โดยเริ่มจากพนักงานสายการผลิต ได้ติดเชื้อจาก ร้านเฝออินเตอร์หม้อไฟ อ.เมือง จ.สงขลา และแพร่เชื้อไปติดพนักงานอีกหลายคน ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2564

โดยล่าสุดโรงงานบริษัท สยามอินเตอร์ฯ ได้หยุดทำการตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 64 เป็นต้นไป โดยจะเปิดทำการอีกครั้งเมื่อสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้แล้ว

และตัวเลขจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ล่าสุดข้อมูลของวันที่ 16 พฤษภาคม 2564 พบว่าในกลุ่มพนักงานของบริษัท ที่เข้ารับการตรวจคัดกรองเชิงรุก จำนวน 1,064 ราย เริ่มจากวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมจำนวน 65 ราย เป็นคนไทย 16 ราย และเมียนมา 49 ราย โดยคิดเป็นร้อยละ 6 จากจำนวนพนักงานที่ตรวจคัดกรองทั้งหมดและได้ถูกนำส่งไปรักษายังโรงพยาบาลสนาม สวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกันทางทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ยังคงตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มพนักงานทั้งหมดของโรงงาน ที่มีอยู่เกือบประมาณ 3,000 คน โดยในวันนี้ (17 พ.ค. 2564) และวันพรุ่งนี้ (18 พ.ค. 2564) จะตรวจพนักงานคนไทย 1,400 คน และกักตัว 14 วัน และรอผลตรวจซ้ำรอบ 2 และจะตรวจหาเชื้อในกลุ่มของพนักงานชาวเมียนมาอีกประมาณ 1,500 คน เช่นกัน

แต่ยังติดอยู่ที่เรื่องสถานที่กักตัว เพราะภายในโรงงานมีที่พักอยู่เพียง 23 หลัง และต้องอยู่รวมกันอย่างแออัดหลังละ 50-100 คน ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมหารือเพื่อแก้ปัญหาในส่วนนี้ เพราะหากปล่อยให้กักตัวอยู่รวมกันไม่สามารถควบคุมได้

ส่วนสถานการณ์โควิด-19 จ.สงขลา วันนี้ (17 พ.ค. 2564) ยอดผู้ป่วยสะสมอยูที่ 1,022 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน เป็นหญิงอายุ 91 ปี และชายอายุ 72 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา ส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิตรวม 5 รายแล้ว และทั้งหมดเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ โดยสามรายแรกเป็นชายอายุ 73 ปี ชายอายุ 85 ปี และหญิงอายุ 99 ปี