ภูเก็ตป่วน นักท่องเที่ยวติดเชื้อพุ่ง โรงพยาบาลรัฐ-เอกชนเต็มแล้ว

โรงแรมภูเก็ตป่วนนักท่องเที่ยวติดเชื้อพุ่ง เตียง รพ.เต็ม นายกสมาคมฯท่องเที่ยวภูเก็ตวอนผู้ประกอบการปรับพื้นที่โรงแรมบางส่วนทำ “โฮเทลไอโซเลชั่น” รองรับ

วันที่ 5 มกราคม 2565 นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการที่สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ประเมินไทยแลนด์พาส สถานการณ์ก่อนคริสต์มาสจนถึง15 มกราคม 2565 อยู่ในภาวะการเดินทางค่อนข้างแน่นหนา แต่หลังวันที่ 15 ม.ค.เป็นต้นไป มีการชะลอตัวลง

ในการสมัครไทยแลนด์พาสเข้ามา แต่ไม่ได้มาก ในเดือนมกราคม 2565 ภูเก็ตน่าจะได้รับนักท่องเที่ยวเฉลี่ยประมาณ 3,500-4,000 คนตรงจากต่างประเทศเข้ามา จำนวนเที่ยวบินในประเทศ เดือนมกราคม 2565 เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ประมาณ 20% โหลดแฟคเตอร์ของผู้เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 20% เช่นกัน

“เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้นมีนักท่องเที่ยวที่มีเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน ยืนยันว่าตั้งแต่เริ่มดำเนินการแซนด์บอกซ์มา ภูเก็ตเป็นจังหวัดเดียวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา เรายังสวอปที่สนามบินได้ 100% มาโดยตลอด สร้างความมั่นใจได้ ต้องขอบคุณ ผอ.ท่าอากาศยานภูเก็ต ทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคน ที่ให้ความร่วมมืออย่างดี รวมถึงทีม สคร.11 ที่สนามบินแข็งขันมาก กล้าพูดว่าถ้าไม่มีทีมเหล่านี้ภูเก็ตจบไปนานแล้ว ทำให้การสวอปที่สนามบินดำเนินได้ 100% และคิดว่ายืนยันสวอปที่สนามบิน 100% เหมือนเดิม”

ประเด็นต่อมา นักท่องเที่ยวเมื่อมีผลตรวจด้วย RT-PCR เป็นบวกแล้วยังไม่สามารถจะเปลี่ยนจากห้องพักที่โรงแรมไปอยู่ใน รพ. หรือฮอสพิเทลได้นั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติมีทางเลือก 4 ทาง เมื่อติดเชื้อโควิดต้องดำเนินการ ดังนี้

1.เข้าโรงพยาบาลตอนนี้ห้องเต็ม ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน

2.ต้องเข้าฮอสพิเทล โดยนำตึกของโรงแรมมาทำเป็นที่พักสำหรับผู้ป่วยโควิด ซึ่งเข้าใจว่า รพ.ขนาดใหญ่ทุกแห่งในภูเก็ตมีฮอสพิเทลแล้วทั้งสิ้น ทั้ง รพ.วชิระ รพ.มิชขั่น รพ.กรุงเทพภูเก็ต รพ.กรุงเทพสิริโรจน์ และได้รับการประสานจาก รพ.อบจ.จะให้มีฮอสพิเทล ยอมรับว่าการเพิ่มขึ้นของฮอสพิเทล ยังเพิ่มขึ้นไดัช้ากว่าจำนวนเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ ตอนนี้พยายามเปิดเพิ่มกันอยู่น่าจะส่งต่อเข้าฮอสพิเทลได้

3.เมื่อนักท่องเที่ยวเป็นบวก โรงแรมที่ขึ้นทะเบียนเป็นโฮเทลไอโซเลชั่น สามารถดูแลนักท่องเที่ยวคนนั้นต่อในโรงแรมเดิมได้ ตอนนี้มี 66 โรงแรม กว่า 700-800 ห้อง ที่ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการโรคติดต่อแล้ว สามารถดูแลผู้ป่วยที่เป็นโควิดในโรงแรมบนเงื่อนไขของสาธารณสุข เช่น แอร์ต้องไม่เป็นสปีดไท้ ต้องไม่มีพรม ในการจัดการน้ำเสีย ป้องกันการติดเชื้อและมี รพ.คู่สัญญาไปดูแล เป็นต้น

4.ไปโรงพยาบาลสนาม ตอนนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปใน รพ.สนามแล้วในรายที่ไม่มีประกัน

“อยากวิงวอนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะโรงแรมว่า ตอนนี้ทีมสาธารณสุขพยายามอย่างหนักเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้ ถ้าโรงแรมบางแห่งมีบางฟลอร์บางตึกปรับเป็นโฮเทลไอโซเลชั่นได้ ก็อยากให้เข้ามาอยู่ในโปรแกรมนี้ ทำให้เปิดกิจการได้ปกติ นักท่องเที่ยวโควิดอยู่ปกติ แต่มีการแยกออกมาเป็นหนึ่งตึกหรือหนึ่งฟลอร์ต่างหาก แต่ถ้าไม่พร้อมอยากให้ประสานงานกัน

ตอนนี้มีคอลเซ็นเตอร์ 076-530220 เป็นคอลเซ็นเตอร์ปกติของแซนด์บอกซ์อยู่แล้ว มีทีมดูแลนักท่องเที่ยว หากมีติดเชื้อจะมีทีมไปรับดูแลว่าติดเชื้อเมื่อไหร่ สวอปที่ไหน มีประกันหรือไม่ จะรับเรื่องไว้และประสานสถานพยาบาลต่อหรือประสานกับฮอสพิเทลต่อ รวมถึงไทยแลนด์พาสด้วย ถ้าต้องการติดตามสถานะของไทยแลนด์พาส จะมีติดต่อผ่านอีเมล ผ่านกูเกิลฟอร์ม หรือโทร.คอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวได้ จะช่วยรับเรื่องให้

“สิ่งที่เรากำลังเจออยู่เป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งของพวกเรา แซนด์บอกซ์เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค. 2564 เป็นต้นมา เราผ่านหลายเรื่องมาและมั่นใจว่าจะผ่านเรื่องนี้ได้ต่อ เพียงแต่เราต้องร่วมมือร่วมใจกันจริง ๆ อีกสักรอบ เราเชื่อว่าพลังคนภูเก็ตจะแสดงให้รัฐบาลไทย และโลกเห็นว่าเราทำได้

ยอมรับว่ามีการระบาดเกิดขึ้นจริงเป็นเรื่องที่คาดการณ์อยู่แล้ว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่ผ่านพอร์ทอื่นเข้ามาภูเก็ตและมาสวอปครั้งที่สอง พบใน 1.2-1.3% แปลว่า 100 คน พบ 1 คน ถ้า 10,000 คนจะพบ 100 คน ทำให้ดูมีติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่เปอร์เซนต์ยังอยู่ในวิสัยที่ไม่ถือเป็นการระบาดหนัก และเชื่อว่าระบบของเรายังควบคุมได้ โดยเฉพาะการสวอปที่สนามบิน 100% เพียงแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้เข้าทางสนามบินทางเดียว มีทางรถยนต์ เครื่องบิน และทางเรือ เป็นสิ่งที่พยายามควบคุมดูแลอยู่ เชื่อว่าระบบเราน่าจะดีที่สุดในประเทศไทย

แม้ผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น แต่ต้องดูว่าจะรองรับจำนวนคนที่สูงที่สุดเท่าไหร่ เพราะนักท่องเที่ยวตรงมาจากต่างประเทศ 4,000 คน สวอป 100% แต่วันหนึ่งเมื่อโจทย์เปลี่ยนต้องไปดูว่าขีดความสามารถที่มีอยู่จะสามารถรองรับจำนวนนั้นได้หรือไม่อย่างไร วันนี้ปัญหามีแต่แก้ได้ทั้งระบบ เชื่อว่าวิธีคิดในการแก้ปัญหาจะทำให้เราเดินต่อได้” นายภูมิกิตติ์กล่าว