น้ำมันดิบท่วมทะเลระยอง เกาะเสม็ดยกเลิก 40% นายกฯท่องเที่ยว ชี้เสียหายยับ

น้ำมันรั่วระยอง

“สริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์” นายกฯท่องเที่ยว ชี้ “เกาะเสม็ด” เสียหายยับน้ำมันดิบถล่มทะเลระยอง คนเลิกเที่ยว-อาหารทะเลกินไม่ได้ จี้ทุกฝ่ายอย่าบิดเบือนข้อมูล

วันที่ 29 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก้าวเข้าสู่วันที่ 4 กรณีการรั่วไหลของน้ำมันดิบจากท่อใต้ทะเลของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 25 มกราคม 2565 ณ บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง

จนถึงวันนี้ไม่มีใครให้ข้อมูลได้ชัดเจนว่า น้ำมันที่รั่วไหลออกมามีปริมาณเท่าไรกันแน่ จากวันแรก 4 แสนลิตร แต่หลังจากนั้นข้อมูลค่อย ๆ ลดลง จนวานนี้ (28 ม.ค.65) ทาง SPRC รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดระยองว่า รั่วไหลเพียง 50,000 ลิตร พร้อมระบุว่า แสลมและกระแสน้ำค่อนข้างนิ่ง ทำให้สามารถควบคุมการกระจายตัวของน้ำมันได้ค่อนข้างดี คาดว่ามีปริมาณน้ำมันเหลือในทะเลประมาณ 4,000 ลิตร

แต่วันนี้ภาพที่ปรากฏชัด น้ำมันดิบที่รั่วไหลยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และพัดขึ้น “หาดแม่รำพึง” เป็นแนวยาวหลายกิโลเมตร และมีแนวโน้มที่คลื่นลมจะพัดไปยังเกาะเสม็ดแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดระยองจนประชาชนชาวจังหวัดระยองหวาดวิตกถึงภัยเงียบที่กำลังก่อตัวใต้ท้องทะเล

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์เปิดใจ “สริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์” ผู้ประกอบการซีฮอร์ส รีสอร์ท และกรีนเพลซ หาดวงเดือน ในฐานะนายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ในห้วงเวลาอันระทึกนี้

ยกเลิกจองห้องพัก 40% ส่อกระทบยาว

สริญทิพญ บอกว่า ตอนนี้น้ำมันดิบที่ลอยเข้ามายังหาดแม่รำพึง เป็นเศษ ๆ ที่เข้ามา เท่าที่ทราบตอนนี้ยังมีน้ำมันดิบก้อนใหญ่มากที่จะเข้ามาอีก ถ้าเกิดลมเปลี่ยนทิศเมื่อไรจะเข้าไปทางอุทยานเขาแหลมหญ้า เกาะเสม็ด แต่ตอนนี้ยังเป็นลมตะวันตกอยู่ แต่หากลมตะวันตกมันหวน กระแสคลื่นแรงขึ้น ไม่ต้องห่วงน้ำมันดิบพัดเข้าเกาะเสม็ดแน่นอน ไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้

แต่ตอนนี้น้ำมันดิบจะเข้าหรือไม่เข้าเกาะเสม็ด แต่ข่าวน้ำมันดิบรั่ว ตอนนี้ผู้ประกอบการเกาะเสม็ดก็ได้รับผลกระทบแล้วเรียบร้อย เพราะนักท่องเที่ยวที่จองห้องพักจะมาช่วงวันหยุดยาวตรุษจีน ยกเลิกการมาท่องเที่ยวเกาะเสม็ดประมาณ 30-40% เป็นผลจากน้ำมันดิบรั่วโดยตรง

เพราะนักท่องเที่ยวคิดว่า หากมาแล้วน้ำมันดิบเข้าเล่นน้ำไม่ได้ อาหารทะเลจะกินอย่างไร ตอนนี้เราอยู่ใน “ภาวะเฝ้าระวัง” กำลังลุ้นเลยจะเข้า-ไม่เข้า เราไม่สามารถวางใจได้กับทิศทางลมของทะเล สามารถเปลี่ยนกระแสน้ำได้

สำหรับมูลค่าความเสียหายที่ได้รับตอนนี้ไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้มากมายมหาศาลขนาดไหน โดยเฉพาะความเสียหายของทรัพยากรทางทะเล ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดระยองไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้เลย

ข่าวตรวจ ATK คลาดเคลื่อน

นักท่องเที่ยวที่ยกเลิกห้องพักขอยืนยันว่า ไม่ใช่ยกเลิกจากปัญหาการตรวจ ATK เพราะตอนนี้ได้เคลียร์ปัญหาการตรวจ ATK ชัดเจนให้ผู้จะมาท่องเที่ยวเข้าใจชัดเจนแล้วว่า การเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะเสม็ดสามารถนำผลการตรวจ ATK จากที่ไหนมาแสดงก็ได้ จะตรวจจากสถานบริการใกล้บ้านก็ได้ แต่ขอให้ผลเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน

แต่หากจะมาตรวจตรงจุดบริการบริเวณท่าเทียบเรือบ้านเพ ข่าวที่ออกไปคลาดเคลื่อน ราคาค่าตรวจ ATK มีหลายราคา ตอนนี้มีการปรับคิดค่าบริการเท่ากันที่ 250 บาทต่อคน โดยเป็นชุดตรวจ ATK แบบ Professional use แต่ตรวจฟรีก็มี เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล(รพ.สต.) จะมีเจ้าหน้าที่บริการตรวจให้ฟรี แต่ต้องพกที่ตรวจ ATK มาเอง

เรื่องนี้นักท่องเที่ยวเข้าใจแล้ว ส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยววานนี้ (28 ม.ค.65) ซึ่งเป็นวันศุกร์มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 800 กว่าคนต่อวัน เทียบกับก่อนหน้านี้ที่มีปัญหา ATK ยอดลดลงไป 300 – 500 คนต่อวัน

จี้อย่าบิดเบือนข้อมูลน้ำมันรั่ว

สภาพท้องทะเลเมื่อเกิดน้ำมันรั่วไหล กว่าจะฟื้นฟูกลับมาได้ใช้เวลาหลายปีพอสมควร บทเรียนเหตุการณ์ปี 2556 โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนแรกหลังเหตุการณ์น้ำมันรั่ว มีคราบน้ำมันซัดเข้ามาชายหาดมากมาย

แม้ผ่านไปในช่วง 9-10 ปีที่ผ่านมา บางวันมีคลื่นโต คลื่นแรงมีน้ำมันที่จับตัวเป็นก้อนพัดขึ้นสู่ชายทะเล หลายขนาดตั้งแต่ก้อนเท่ากรวด ก้อนเท่านิ้วโป้ง ก้อนเท่ากำมือก็มี เราไม่สามารถบอกได้ว่า หลังจากนี้ต้องใช้เวลาอีกนานเพียงใดกว่าฟื้นฟูทะเลระยองกลับสู่สภาพเดิมได้

ทุ่นกักน้ำมัน (boom) ที่เราเห็นครอบคลุมน้ำมันไว้เป็นการกั้นน้ำมันดิบบนผิวน้ำ แต่ส่วนที่ตกอยู่ใต้ท้องน้ำน่ากลัว โดยเฉพาะสารเคมีสลายคราบน้ำมัน เราไม่รู้ว่ามันไหลไปตามทิศทางน้ำอย่างไร ถ้าเป็นลมตะวันตก ไหลไปทางเกาะเสม็ดแน่นอน

การนำสารเคมี Dispersant มาใช้สลายขจัดคราบน้ำมันให้เกิดการแตกตัวแล้วย่อยสลายไปกับตาจำนวนมาก ตรงนี้มันน่ากลัวก้อนที่หายไป มันระเหยไปหรือมันจะไปจับตกตะกอนเป็นก้อนอยู่กับทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเล ปะการัง สัตวน้ำ ใต้ท้องทะเลได้รับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ใต้ท้องทะเล

อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่า หลังเกิดอุบัติเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลออกมา ข้อมูลปริมาณน้ำมันที่ออกมาไม่มีใครทราบแน่นอน วันแรกบอกรั่วไหลออกมา 400,000 ลิตร วันที่ 2 บอกแค่ 10,000 ลิตร วันที่ 3 บอกเหลือ 6,000 ลิตร วันที่ 4 บอกเหลือ 4,000-5,000 ลิตร วันต่อไปคงบอกเหลือ 20 ลิตร ทั้งที่ควรบอกตามความเป็นจริงให้กับประชาชน ถ้ามีน้ำมันรั่วแค่ 5,000 ลิตรมันน่าจะจัดเก็บได้ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เกิดรั่วไหลแล้วถูกต้องหรือไม่ มันควรบอกข้อมูลตามความเป็นจริงให้คนในพื้นที่ได้ทราบ อย่าบิดเบือนข้อมูล

เร่งรัฐเยียวยาประมง-ภาคท่องเที่ยว

หลังจากการเก็บกู้แล้ว ต้องหันกลับมามองจะช่วยแก้ไขปัญหาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างไร ทั้งภาคท่องเที่ยวที่อยู่ติดริมทะเล ริมชายหาดแม่รำพึงทั้งหมด ร้านค้า ร้านอาหารที่ขายไม่ได้ เพราะตอนนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองได้ประกาศบริเวณหาดแม่รำพึงเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว แม่ค้าขาดรายได้แน่นอน รวมถึง ชาวประมงพื้นบ้านทั้งเรือขนาดเล็ก ประมงอาชีพที่ออกไปหาสัตว์น้ำ 3-4 ไมล์ทะเล

ตอนนี้เกาะเสม็ดถึงน้ำมันจะยังไม่พัดเข้ามา แต่ได้รับผลกระทบไปเรียบร้อยแล้ว กำลังคุยกับผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของสมาคม เพื่อรวบรวมข้อมูลกันอยู่ว่า ใครได้รับผลกระทบลูกค้ายกเลิกจองห้องพักไปมากน้อย ปัจจุบันบนเกาะเสม็ดมีโรงแรมประมาณ 150 แห่ง รวมห้องพักประมาณ 4,000 ห้อง ตอนนี้ผู้ประกอบการยังสามารถฟื้นกลับคืนมาได้ หากได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ

ตอนนี้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมาแล้ว จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวรูปแบบ TEST & GO วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งเราก็มีความหวัง แล้วเกิดสถานการณ์อย่างนี้ในจังหวัดระยอง ใครจะมั่นใจเข้ามาท่องเที่ยว เหลือเวลาอีกเพียง 2 วันเอง แทนที่เราจะมีรายได้ กลายเป็นเราต้องสูญเสียรายได้ไป

โดยที่ผ่านมาเกาะเสม็ดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจองห้องพักเข้ามาในการเปิดประเทศรูปแบบ TEST & GO ตั้งแต่รอบแรก แต่ได้มีการหยุดชะงักไป ต่างชาติก็ไม่ได้เข้ามา พอประเทศไทยจะเปิด TEST & GO อีกรอบทุกคนก็เตรียมจ่อกลับมาท่องเที่ยว แต่แซนด์บอกซ์เกาะเสม็ดถูกระงับไว้อยู่ พอมาเจออย่างนี้อีก

“เราก็หมดหวัง เกาะเสม็ดไม่รู้เป็นอะไรเคราะห์ซ้ำกรรมซัดมากเลย เราเจอสถานการณ์โควิด-19 มา 2 ปีกว่า ก็ไม่ได้รับช่วยเหลือเยียวยาใด ๆ จากภาครัฐเลย พอสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดคลี่คลายดีขึ้น ก็มาเจอสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลอีก”

ตอนนี้เราแค่พยุงตัวขึ้นยืน แล้วเศรษฐกิจมาหยุดชะงักอีก มันจะต้องมานั่งคุยกันแล้วจะดำเนินการต่อไปอย่างไร จะช่วยเหลือเยียวยากันอย่างไร

ที่สำคัญจะทำฉันทามติกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์วันข้างหน้าแบบนี้อีก อย่างที่เคยเกิดบทเรียนขึ้นมาแล้วในปี 2556 วันนี้กลับมาเกิดขึ้นอีก ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจน้ำมันที่ตั้งอยู่ใกล้ชายหาด ควรจะต้องทำพันธมิตรกันหรือไม่สำหรับโรงงานใกล้เคียงกัน ในการช่วยกันดูแล ไม่ใช่เรื่องของโรงงานใดโรงงานหนึ่งโรงงานเหล่านี้เป็นเครือข่ายเดียวกัน ต้องมานั่งคุยกันว่า ถ้าโรงงานหนึ่งเกิดเหตุการณ์อีกโรงงานมาช่วยได้แค่ไหน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชุมชน และผู้ประกอบการประมง และภาคการท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบกันหมดทุกภาคส่วน”