หมอยงเชื่อ โควิด-19 มนุษย์​ไม่อาจหนีกฎเกณฑ์ธรรมชาติได้

หมอยงเชื่อ โควิด-19 มนุษย์​ไม่อาจหนีกฎเกณฑ์ธรรมชาติได้

หมอยงชี้ โควิด-19 จะอยู่กับเราตลอดไป และจะอยู่ด้วยกันได้ ไวรัสจะทำร้ายเราน้อยลง เรามีระบบภูมิต้านทานที่ดีขึ้น อัตราการสูญเสียก็จะน้อยลง เหมือนโรคทางเดินหายใจทั่ว ๆ ไป

วันที่ 11 สิงหาคม 2565 นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก เปรียบเทียบแนวทางการเป็นโรคประจำถิ่นของโควิด-19 เทียบกับโรคระบาดในอดีต

นพ.ยงระบุว่า ในอดีตที่ผ่านมามีการระบาดของโรคร้ายแรงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไข้ทรพิษ กาฬโรค และความรู้การแพทย์ไม่ทันสมัยเหมือนสมัยนี้

เราก็สามารถผ่านพ้นกันมาได้จนทุกวันนี้ การระบาดของโรคจะไม่ยืดยาวนานอย่าง โควิด-19 ในปัจจุบัน

ตามกฎเกณฑ์ของวิวัฒนาการ กระต่ายเคยทำลายพืชเกษตรเสียหายมาก มนุษย์จึงใช้ไวรัสที่ก่อโรครุนแรงในกระต่ายถึงเสียชีวิต และเป็นโรคระบาดใส่ให้กระต่าย

ผลปรากฏว่ากระต่ายเสียชีวิตจำนวนมากแต่ก็จะมีจำนวนหนึ่งที่ทนต่อไวรัสนี้ และหลงเหลืออยู่แพร่พันธุ์ต่อมา เพิ่มจำนวนได้เท่าเดิม

เมื่อมองย้อนไปถึงการระบาดของโรคในอดีต การระบาดส่วนใหญ่จะใช้เวลาปีเดียว มีการติดต่อกันมาก

อย่างเช่นอหิวาตกโรคในรัชกาลที่ 2 หรือ ไข้หวัดใหญ่สเปน ในรัชกาลที่ 6 ระบาดอยู่เพียงปีเดียว ก็เปลี่ยนเป็นโรคประจำฤดูกาล

แต่มีการสูญเสียค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ของประชากร

เราประมาณการกันว่า ไข้หวัดใหญ่ระยะเวลา 3 ปี เกือบทุกคนจะเป็นหนึ่งครั้ง และเมื่อครบ 9 ปีโดยเฉลี่ยแล้วจะเป็นครบทั้งไข้หวัดใหญ่ A (H1N1, H3N2) และ B รวม 3 ตัว

ดังนั้น ในเด็กอายุต่ำกว่า 9 ปี ถ้าไม่เคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาก่อน การให้ครั้งแรกของชีวิตจะต้องให้ 2 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน

แต่ถ้าใครอายุเกิน 9 ปี ก็ถือว่าน่าจะเคยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มาแล้ว การให้วัคซีนจะเป็นเข็มกระตุ้น 1 ครั้ง

Covid 19 ก็น่าจะเช่นเดียวกัน ถ้าใช้ระยะเวลา 3 ปี ประชาชนส่วนใหญ่ก็น่าจะเคยติดเชื้อมาเป็นส่วนใหญ่แล้ว

ในปัจจุบันการแพทย์เราดีขึ้นก็ตาม การระบาดของโรคเราต่อสู้กับมันมาตลอด ทำให้ระยะเวลาในการระบาดยืดยาวออก

และในที่สุดประชากรส่วนใหญ่ก็คงจะต้องเคยติดโรค เปรียบเสมือนไข้หวัดใหญ่ โรคทางไวรัส ส่วนใหญ่เป็นในเด็กอาการจะไม่มีรุนแรง อาการจะรุนแรงในกลุ่มเปราะบาง

เรายืดระยะการระบาดมาถึง 2 ปีครึ่งแล้ว เพื่อให้มีการพัฒนา การรักษา การป้องกัน ด้วยวัคซีน

ปัจจุบันก็ทราบแล้วว่าวัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่ช่วยลดความรุนแรง การระบาดในระยะหลังจึงมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก อาจจะเป็นจำนวนหลายหมื่น

ถ้ารวมผู้ติดเชื้อมีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ และไม่ได้ตรวจ ก็อาจจะเป็นแสนก็ได้

ปัญหาของโรคจึงอยู่ในกลุ่มเฉพาะเปราะบาง จำนวนการนอนโรงพยาบาลจึงอยู่ที่ 2,000-3,000 คน การเสียชีวิต 20-30 คน

เรารับความจริงแล้วว่า โรคนี้จะอยู่กับเราตลอดไป และจะอยู่ด้วยกันได้ ไวรัสจะทำร้ายเราน้อยลง เรามีระบบภูมิต้านทานที่ดีขึ้น ที่เคยได้รับวัคซีนติดเชื้อแล้ว และมียาที่ดีขึ้น

อัตราการสูญเสียก็จะน้อยลง เหมือนโรคทางเดินหายใจทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะในเด็ก เมื่อเป็นแล้วโตขึ้นก็จะมีภูมิต้านทาน และถ้าได้รับเชื้อความรุนแรงของโรคก็จะน้อยลงเอง