แอลจี กางโรดแมปปั๊มยอด กระหน่ำโปร “ซื้อคู่-0%” ลุยทีวีรับบอลโลก

เครื่องใช้ไฟฟ้าแอลจี

“แอลจี” ระดมโปรฯบันเดิลหรือซื้อคู่ราคาพิเศษลด 10-30% ผ่อน 0% นาน 10 เดือน พร้อมเดินหน้าทำตลาดทั้งโรดโชว์ทั่วประเทศ เปิดตัวสินค้าใหม่ รวมถึงเตรียมลอนช์แคมเปญบอลโลกตั้งแต่ ต.ค. ก่อนเดินสายรีโนเวต 200 จุดจำหน่าย หวังหนุนยอดขาย หลังมั่นใจตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า 5 เดือนสุดท้ายกำลังซื้อแนวโน้มดี

นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ไตรมาส 3 ส่งสัญญาณบวกชัดเจน หลังจากยอดขายของบริษัทในช่วงหยุดยาวเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีตัวเลขการเติบโตถึง 15% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ไม่ว่าจะเป็น ทีวีและตู้เย็น ที่มีระดับราคาหมื่นกลาง หรือเครื่องซักผ้าระดับหมื่นต้น ที่เติบโตจากการซื้อในไฮเปอร์มาร์เก็ตและร้านดีลเลอร์ในต่างจังหวัด ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีกว่าช่วงหยุดยาวปกติที่สินค้าขายดีมักเป็นกลุ่มระดับแมส เช่นเดียวกับช่วง 4 วันท้ายเดือนที่หลายช่องทางทำยอดขายได้ดีมากเช่นกัน

นายอำนาจกล่าวว่า ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงดีมานด์และมู้ดการจับจ่ายของผู้บริโภคระดับกลางที่ยังซื้อสินค้า หากสามารถผ่อน 0% นาน 6-10 เดือนได้ และเมื่อรวมกระแสการแข่งขันฟุตบอลโลก ปีนี้ที่มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน ยาวไปจนถึง 18 ธันวาคม ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งเวลาต่างจากไทยเพียง 4 ชั่วโมง จึงน่าจะสร้างความคึกคักได้มากกว่าปกติ

และคาดว่าจะมีดีมานด์จากทั้งร้านอาหารที่ต้องการอัพเกรดทีวีจาก 55 นิ้วไปเป็น 70 นิ้ว เพื่อเป็นแม็กเนตเรียกแฟนบอลมาใช้บริการ เช่นเดียวกับผู้บริโภคระดับบนที่เคยซื้อจอ 55 นิ้วสมัยออกใหม่จะอัพขนาดทีวีให้ใหญ่ขึ้นอีก ตามวงรอบการเปลี่ยนทีวีทุก 7-8 ปี

“ขณะนี้ช่องทางจำหน่ายหลายแห่งส่งสัญญาณให้บริษัทเริ่มทำแคมเปญบอลโลกตั้งแต่เดือนตุลาคม น่าจะช่วยผลักดันให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าคึกคักต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาและหาทางรับมือปัจจัยค่าแรง ซึ่งเกี่ยวพันโดยตรงกับต้นทุนธุรกิจ เนื่องจากบริษัทมีทั้งโรงงานและบริษัทจัดจำหน่ายทำให้มีทัพพนักงานสองฝ่ายรวมกันกว่า 4 พันคน”

ระดมโปรฯซื้อคู่-คืนเงิน

ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี กล่าวว่า สำหรับทิศทางของแอลจีในช่วง 5 เดือนที่เหลือ ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน บริษัทจะเน้นกระตุ้นยอดขายด้วยการชูความคุ้มค่าในราคาที่จับต้องได้ง่าย และความเชื่อมั่นแบบไม่พอใจยินดีคืนเงิน ร่วมกับฟังก์ชั่นสมาร์ทที่เป็นจุดขายหลัก ด้วยการจัดโปรโมชั่นบันเดิล (bundle) หรือการซื้อสินค้าเป็นคู่ในราคาพิเศษ ซึ่งจะราคาถูกกว่าการซื้อแยกชิ้นประมาณ 10-30% หรือเท่ากับสูงสุด 5,000 บาท เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อจากการได้ลดเพิ่มและความรู้สึกคุ้มค่า

พร้อมด้วยการผ่อนกับบัตรต่าง ๆ ช่วยให้ผู้บริโภคไม่ต้องจ่ายเงินก้อนในครั้งเดียว สอดคล้องกับข้อมูลพฤติกรรมการซื้อในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการผ่อนช่วยให้สามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้นมาก อาทิ โปรฯ “จับคู่สุดคุ้ม ราคาสุดฟิน” ที่มีราคาพิเศษเมื่อตู้เย็นคู่กับเครื่องซักผ้า หรือตู้ถนอมผ้า Styler คู่กับเครื่องซักผ้าหรือตู้เย็น ตั้งแต่ 1 ส.ค.-31 ต.ค. 2565

ขณะเดียวกันยังกระตุ้นการขายสินค้าระบบพรีเมี่ยมอย่าง ตู้ถนอมผ้า Styler ที่เป็นสินค้ากลุ่มใหม่ ด้วยแคมเปญ Trial&Buy ตั้งแต่ 12 สิงหาคม-15 กันยายน 2565 ให้ลูกค้าสามารถทดลองใช้ 15 วัน หากไม่พอใจยินดีคืนเงิน 100% มีเงื่อนไขคือต้องชำระเงินสดหรือตัดบัตรเครดิตเต็มจำนวน และต้องเก็บใบเสร็จ ใบรับสินค้าตัวจริง รวมถึงกล่อง-อุปกรณ์ต่าง ๆ เอาไว้ ทั้งนี้ไม่ครอบคลุม ตู้ถนอมผ้า Styler ที่ซื้อในโปรฯจับคู่สุดคุ้ม ราคาสุดฟิน

“ขณะนี้โปรโมชั่นผ่อนสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการผ่อน 10 เดือนของบัตรเครดิต หรือผ่อน 18-24 เดือนกับบัตรผ่อนต่าง ๆ เรียกได้ว่าสินค้าราคาเกิน 3,900 บาท จะต้องสามารถผ่อนได้หมด เพราะนอกจากผู้บริโภคทั่วไปแล้ว ยังมีผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่พัก เริ่มมาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่ออัพเกรดร้าน-ที่พักของตน รอรับนักท่องเที่ยวที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลง และ ศบค.ผ่อนปรนมาตรการมากจนใกล้จะเหมือนปกติ”

ลุยโรดโชว์-แคมเปญบอลโลก

นายอำนาจกล่าวต่อไปว่า พร้อมกันนี้จะเดินหน้าทำการตลาดสร้างการรับรู้และความคึกคักอย่างเต็มที่อีกครั้งหลังชะลอไปในระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 โดยฟอร์มทีมงานในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อรองรับการเดินสายจัดโรดโชว์ และปรับรูปแบบให้ทันสมัยด้วยการลดใบปลิว หันมาใช้สื่อโซเชียลแทน รวมถึงเล็งเปิดตัวสินค้าใหม่หลายรายการ อาทิ เครื่องซักผ้าแบบ 2 ชั้น เครื่องอบผ้าระบบฮีตปั๊มรุ่นใหม่ ฯลฯ ไปจนถึงการผลักดันยอดขายตู้ถนอมผ้า Styler

โดยเพิ่มจุดโชว์สินค้าให้ครบ 100 จุด จากปัจจุบันมี 70 จุด เช่น ในที่อยู่อาศัย และสถานประกอบการเกี่ยวกับผ้า-ความสะอาด อย่างร้านสะดวกซัก คอนโดฯระดับหรู โรงพยาบาล ฯลฯ ควบคู่กับการขยายจุดจำหน่ายไปในร้านระดับเทียร์ 2 เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ เป็นไปตามแผนปั้นสินค้าตัวนี้ หลังช่วงที่ผ่านมายอดขายเริ่มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับเดือนตุลาคม แอลจี จะเริ่มจัดแคมเปญเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลโลก ด้วยการโฟกัสสินค้าทีวี โดยเฉพาะโอแอลอีดีทีวี (OLED TV) ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าเรือธง อาทิ การทำโมเดลพิเศษเป็นที่ระลึกสำหรับการแข่งขัน พร้อมกับเร่งรีโนเวตจุดจำหน่ายประมาณ 30-40 จุดต่อเดือน ตามแผนรีโนเวตให้ได้อย่างน้อย 300 จุด จากทั้งหมด 900 จุดในปีนี้ รวมถึงจะเปิดตัว OLED TV ขนาด 83 นิ้ว ความละเอียด 4K ราคาประมาณ 2 แสนบาท อย่างเป็นทางการ หลังเลื่อนการเปิดตัวเพราะสถานการณ์โควิด-19

นอกจากนี้ บริษัทยังทยอยนำสินค้าใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีขายในไทยเข้ามาทดลองทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งกับลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กร หลังตู้ถนอมผ้า หน้ากากฟอกอากาศ และเครื่องลดความชื้น ต่างได้รับผลตอบรับดี และช่วยย้ำภาพความทันสมัยและเท่ในสายตาคนรุ่นใหม่ โดยหลังจากนี้จะคัดเลือกสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคชาวไทยได้ เข้ามาเปิดตัวและทำตลาดในไทยเพิ่มอีก

ส่วนการรับมือความท้าทายด้านต้นทุนวัตถุดิบ ค่าเงินบาท และค่าแรงนั้น จะยังคงใช้กลยุทธ์เน้นขายสินค้าระดับบนให้มากขึ้นเพื่อนำสัดส่วนกำไรมาชดเชย เนื่องจากทั้งพนักงานขายถือเป็นกำลังสำคัญในการสร้างยอดขาย เนื่องจากสินค้าของบริษัทเน้นนวัตกรรมและฟังก์ชั่นพิเศษ จึงต้องพึ่งการอธิบายและสาธิตการใช้งานให้ผู้บริโภคเข้าใจ

ทั้งนี้ นายอำนาจย้ำความมั่นใจว่า ผลประกอบการปี 2565 นี้จะเติบโตแน่นอน เพราะนอกจากกลยุทธ์ต่าง ๆ แล้ว ปี 2564 ยังมีการล็อกดาวน์อยู่ จึงไม่สามารถทำยอดขายได้เต็มที่

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอลจีได้นำ LG Objet Collection ซึ่งเป็นไลน์อัพพรีเมี่ยมที่เน้นเทคโนโลยีและสีสัน อาทิ LG OLED TV รุ่น Posè ที่สามารถปรับแสงและความคมชัดได้อัตโนมัติ เครื่องซักและอบผ้าแบบ 2 ถัง ตู้ถนอมผ้า LG Styler รุ่นใหม่ และอื่น ๆ มาจัดแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรกที่ LG Live Green Experience Shop ร้านค้าควบโชว์รูม ซึ่งบริษัทวางโพซิชั่นให้เป็นจุดแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแบบครบไลน์อัพ โดยปักธงสาขาแรกที่โฮมโปร ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต หวังเจาะกลุ่มผู้อาศัยในย่านตะวันออกของกรุงเทพฯ และบริเวณใกล้เคียง รวมถึงรองรับการขยายตัวของตลาดบ้านที่กำลังกลับมาเติบโตอีกครั้ง