มิตซูบิชิ ลุยไม่ยั้งรับเศรษฐกิจฟื้น เทงบก้อนโตกอดแชมป์แอร์

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค

มิตซูบิชิ อีเล็คทริคฯ เปิดเกมรุก ขนทัพ 4 ไลน์อัพ ทั้งแอร์ ตู้เย็น พัดลม รับตลาดดีดกลับหลังโควิด-19 ซา พร้อมทุ่มงบฯกว่า 1,200 ล้าน ทำการตลาดเต็มสูบเจาะไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ประกาศรักษาแชมป์แอร์ต่อเนื่อง ดึง นนท์-ธนนท์ จำเริญ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ตั้งเป้ายอดขายโตกว่า 19%

นายชินจิ คามิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมามาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ผ่อนคลายลง และประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้ภายใต้การใช้ชีวิตวิถีปกติใหม่ จึงคาดหวังได้ว่าสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนยอดขายของบริษัทในปีงบประมาณ 2565 (เม.ย. 2565-มี.ค. 2566) คาดว่าจะรับผลกระทบจากสถานการณ์เงินเฟ้อภายในประเทศ รวมถึงสภาวะอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย จึงคาดว่าจะเติบโตประมาณ 10% โดยที่ยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งไว้ได้อย่างต่อเนื่องทั้งเครื่องปรับอากาศและปั๊มน้ำ

สำหรับการขายในปีงบประมาณ 2566 นี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเสริมฟังก์ชั่น เพิ่มไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มาเสริมแกร่งรักษาแชมป์ตลาดเครื่องปรับอากาศ รวมทั้งตั้งงบประมาณการตลาด และสร้างแบรนด์ไว้กว่า 1,200 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังได้พัฒนาศักยภาพของความพร้อมในระบบโครงสร้างพื้นฐานการจัดจำหน่าย โดยได้พลิกโฉมโชว์รูม AI Gallery ที่สำนักงานใหญ่ใหม่ เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมสมบูรณ์ต่อการนำเสนอให้ลูกค้า และผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสถึงคุณสมบัติ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ภายใต้แนวคิด “โซลูชั่น เพื่อการประหยัดพลังงาน พร้อมความสะดวกสบาย” ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการประหยัดพลังงาน ความสะดวกสบายในการใช้งาน โดยตั้งเป้าโตกว่า 19% ของตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้า

ด้านนายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริคฯ กล่าวเสริมว่า ปีนี้บริษัทได้ปรับองค์กรสู่ digital transformation นำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับการบริการหลังการขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนาระบบ online service system ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะเน้นการเชื่อมโยงระบบบริการหลังการขายของศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริคฯ สำนักงานใหญ่ และศูนย์บริการแต่งตั้งทั่วประเทศไว้บนแพลตฟอร์มเดียวกัน พื่อให้การติดต่อประสานงานในการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว สามารถติดตามความคืบหน้าในการให้บริการแก่ลูกค้าแต่ละรายได้แบบเรียลไทม์ทุกขั้นตอน ตลอดจนเดินหน้าพัฒนาระบบ warranty online register เพื่อให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนรับประกันสินค้าแบบเรียลไทม์ออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง

ขณะเดียวกันก็ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดการโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเสริมความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยได้ดำเนินการพัฒนาระบบขนส่งโลจิสติกส์ตั้งแต่การสร้างคลังสินค้าขึ้นใน 2 ภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้า ทางภาคเหนือที่จังหวัดลำปาง และในภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่น พร้อมพัฒนาระบบการจัดการที่ทันสมัย เชื่อมโยงเครือข่ายจากศูนย์กลางผ่าน online service system เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าในสภาพสมบูรณ์ และรวดเร็วยิ่งขึ้น

ขณะที่นายชิซุโอะ นาคาสึคาสะ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริคฯ กล่าวว่า แม้ว่าตลาดรวมเครื่องปรับอากาศของไทยในปี 2565 ที่ผ่านมา มีการเติบโตน้อยลง แต่ยังเชื่อว่าแนวโน้มตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้จะสามารถกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุน และกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยคาดว่าจะเติบโตราว 5-10% และบริษัทยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ต่อยอดขยายฐานผู้บริโภคให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

โดยชูความเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ที่เน้นเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบรับการใช้ชีวิตยุคใหม่ ช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมสุขอนามัยที่ดี และประหยัดพลังงาน ผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศภายในบ้านที่เน้นเสริมไลน์อัพระบบอินเวอร์เตอร์เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าของมิตซูบิชิ อีเล็คทริคฯ ได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย

โดยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ใหม่ รุ่น Happy Inverter KX Series, ตู้เย็น 4 ประตู รุ่น 4D Smart Freeze, ตู้เย็น 2 ประตู รุ่น FC Series, พัดลมมิตซูบิชิ อีเล็คทริค สีขาว และสีน้ำตาลใหม่

นอกจากนี้ยังคงเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งทางการขายผ่านกลยุทธ์การสื่อสาร และกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้ดึงนนท์-ธนนท์ จำเริญ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดของเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริคมิสเตอร์สลิม ที่จะมาช่วยสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และสร้างความจดจำให้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น

รวมถึงยังคงเดินแผนกลยุทธ์ sport marketing ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (BGPU) เป็นปีที่ 5 พร้อมสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านทั้งสื่อหลักและช่องทางออนไลน์ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในยุคดิจิทัล อาทิ social media, VDO content, การใช้ influencer และ KOL เป็นต้น รวมทั้งมีแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และแคมเปญการตลาด พร้อมสนับสนุนช่องทางการขายให้กับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง