ผลวิจัยเผย “4 พฤติกรรมช็อปท้ายปี” สินค้าไหนขายดี-ใครนักช็อปตัวยง

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 - 14:45 น.

The 1 Insight เผยอินไซต์ “4 พฤติกรรมช็อปส่งท้ายปี” สินค้าไหนมาแรง นักช็อปกลุ่มไหนพร้อมจับจ่าย

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 The 1 Insight และ CRC VoiceShare เผยเทรนด์นักช็อปไทยช่วงโค้งท้าย ทั้งกลุ่มสินค้าที่จะขายดี กลุ่มนักช็อปหลักที่จะจับจ่ายในช่วงนี้ และงบฯที่เหล่านักช็อปเตรียมไว้ใช้

The 1 Insight ระบุว่า แต่ละปีจะมี 4 พฤติกรรมการช็อปที่เกิดซ้ำทุกช่วงการช็อปส่งท้ายปี ประกอบด้วย

สินค้าท่องเที่ยวได้รับความนิยม

ช่วงเวลานี้ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อย “เตรียมตัวเที่ยวปลายปี” ทำให้ยอดขายสินค้าที่ใช้ระหว่างการท่องเที่ยวและเสื้อผ้าฤดูหนาวเติบโตขึ้น อาทิ กระเป๋าเดินทาง +85% ผ้าพันคอ +270% รองเท้าบู๊ต +150% โค้ตและแจ็กเกต +95%

ของแต่งบ้านยอดขายพุ่ง

นอกจากการท่องเที่ยวแล้ว ผู้บริโภคยังนิยม ‘จัดบ้านรับปีใหม่’ ทำให้ของแต่งบ้านทุกประเภทยอดขายเติบโต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว +60% เฟอร์นิเจอร์ห้องนอนและห้องน้ำ +40% โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ +20%

กลุ่มสินค้าสำหรับ ‘ฉลองปาร์ตี้สิ้นปี’

ยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มสำหรับการเฉลิมฉลอง อาทิ ของตกแต่งปีใหม่และคริสต์มาส มากกว่า +1,000% ขนมหวาน อาทิ ช็อกโกแลต คุกกี้ ลูกกวาด +120% เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ วิสกี้ บรั่นดี ไวน์ เบียร์ +120%

ผู้บริโภค ‘ช็อปไอเท็มของขวัญ’ มากขึ้น

กระแสการให้รางวัลตนเอง และมอบของขวัญให้กับคนใกล้ชิดยังคงมาแรง โดยครอบคลุมกลุ่มสินค้าหลากไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบของแต่ละบุคคล อาทิ ของเล่น +120% หูฟัง +70% น้ำหอม +70% สกินแคร์ +50% กระเป๋า +80% แอ็กเซสซอรี่แฟชั่น +85%

วัยรุ่น 18-26 ปี จับจ่ายสูงสุด

สำหรับกลุ่มนักช็อปที่มีศัยภาพจะเป็น Gen Z (อายุ 18-26 ปี) คือกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการช็อปในช่วงเทศกาลมากที่สุดในทุกช่วงวัย โดยถือเป็นกลุ่มที่ยอดใช้จ่ายเติบโตสูงสุดที่ 45% รองลงมาคือ Gen Y (อายุ 27-42 ปี) มียอดใช้จ่ายเติบโตที่ 27% ตามมาด้วย Gen X และ Baby Boomer เติบโตเท่ากันที่ 25% อีกทั้งช่วงปลายปียังมีสัดส่วนยอดการใช้จ่ายจากช่องทางหน้าร้าน (ออฟไลน์) มากกว่าช่องทางอื่น ๆ

งบฯช็อป 500-1,500 บาท

ด้าน CRC VoiceShare เผยข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของกลุ่มนักช็อปที่มีศักยภาพในช่วงปลายปี 2566 ว่า ผู้บริโภคไทยส่วนใหญ่วางแผนซื้อของขวัญปีใหม่ในงบฯ 500-1,500 บาท โดยจะเลือกสินค้าต่างกันตามผู้รับที่มีความสัมพันธ์แบบต่าง ๆ

โดยบุคคล 3 อันดับแรกที่ผู้บริโภคมักซื้อของขวัญปีใหม่ให้ ได้แก่ พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ เพื่อนและเพื่อนร่วมงาน อีกกลุ่มคือลูกหลาน

สำหรับญาติผู้ใหญ่ ผู้บริโภคจะพิจารณากระเช้าของขวัญ 48% ของกินของใช้ภายในบ้าน 35% เซตของขวัญ 34% สำหรับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน จะนิยมเลือกเซตของขวัญ 33% ของกินของใช้ภายในบ้าน 30% สินค้าแฟชั่นและเครื่องสำอาง 20% สำหรับลูกหลาน ผู้บริโภคมักเลือกสินค้าแฟชั่นและเครื่องสำอาง 46% เครื่องเขียน หนังสือ และอุปกรณ์การเรียนรู้ 35% เซตของขวัญ 22%

“จากผลการสำรวจดังกล่าว เห็นได้ชัดว่ากระเช้าปีใหม่และเซตของขวัญพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อเทศกาล ยังคงเป็นที่นิยมอันดับต้น ๆ ดังนั้น นอกจากโปรโมชั่น แบรนด์อาจพิจารณาจัดเซตของขวัญขึ้นเป็นพิเศษในช่วงเดือนสุดท้ายของปี ซึ่งผู้บริโภคเห็นว่ามีความคุ้มค่า สะดวก และเหมาะที่จะมอบให้เป็นของขวัญ”