ไทยเบฟ ปรับโครงสร้างรับปี’67 หวังเสริมแกร่งรุกตลาดหลักอย่าง เวียดนาม เมียนมา มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย รวมถึงตลาดใหม่อื่น ๆ ย้ำเป้าผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารระดับอาเซียน
วันที่ 11 มกราคม 2567 บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือไทยเบฟ เปิดปี 2567 ด้วยการประกาศปรับโครงสร้างพร้อมปรับเปลี่ยนและแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุดปฏิบัติการ
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
เริ่มจาก ปรับตำแหน่งของนายฐาปน สิริวัฒนภักดี จากกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (Director and President & CEO) เป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Director and Group CEO)
พร้อมกับการแต่งตั้งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่และผู้บริหารสูงสุดปฏิบัติการ (President & Group COO) 2 ราย ซึ่งจะรายงานตรงต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประกอบด้วย
นายโฆษิต สุขสิงห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่และผู้บริหารสูงสุดปฏิบัติการประเทศไทย (President and Group COO-Thailand) ทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มเติมจากตำแหน่งปัจจุบัน อันได้แก่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (ประเทศไทย) และผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานดิจิทัลและเทคโนโลยี โดยยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารดังเดิม
นายประภากร ทองเทพไพโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่และผู้บริหารสูงสุดปฏิบัติการต่างประเทศ (President and Group COO-International) ทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ เพิ่มเติมจากตำแหน่งปัจจุบัน ได้แก่ ผู้บริหารสูงสุด การเงินและการบัญชีกลุ่ม และผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจสุรา โดยยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารดังเดิม
ขณะเดียวกันยังแต่งตั้ง นายฐาปน สิริวัฒนภักดี นายอวยชัย ตันทโอภาส นายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร และ ดร.พิษณุ วิเชียรสรรค์ เป็นรองประธานกรรมการบริหาร อีกด้วย
โดยไทยเบฟ อธิบายเหตุผลของการปรับโครงสร้างและแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงครั้งนี้เพื่อ ชิงความได้เปรียบในตลาดหลัก อย่าง ไทย เวียดนาม เมียนมา มาเลเซีย และสิงคโปร์ ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งในการบริหารห่วงโซ่อุปทาน การบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายและการจัดการโลจิสติกส์ รวมทั้งนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน
รวมถึงขับเคลื่อนการลงทุนในตลาดใหม่ เพื่อขยายการเติบโตของตราสินค้าต่าง ๆ ของบริษัทในระดับภูมิภาค ตามเป้าการเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารของอาเซียน
“ปรับเปลี่ยนยังเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ผู้บริหารมืออาชีพเพื่อสนับสนุนการเติบโตขององค์กรอย่างมั่นคงและยั่งยืน อีกด้วย”