ไทยเบฟกางโรดแมปบุก ตปท. ขนทัพน้ำเมาเจาะจีน-ตั้งโรงเบียร์ในกัมพูชา

ยักษ์ไทยเบฟฯ อู้ฟู่สุด ๆ เผย 9 เดือนกวาดยอดขายรวมทะลุ 2 แสนล้าน แม่ทัพใหญ่ “ฐาปน” กางโรดแมปบุกต่างประเทศ ประกาศขนเหล้าเบียร์พรีเมี่ยม-สินค้าในเครือเจาะตลาดเมืองจีน พร้อมทุ่ม 4 พันล้านตั้งโรงเบียร์แย่งเค้กก้อนโตตลาดกัมพูชา ส่วนกลุ่มน็อนแอลกอฮอล์-ร้านอาหาร เร่งศึกษาเตรียมสยายปีกคลุมอาเซียน

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 (1 ตุลาคม-30 มิถุนายน) ว่า กลุ่มบริษัทไทยเบฟฯมีรายได้จากการขาย 215,893 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากทุกกลุ่มธุรกิจมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น

ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวดีขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประกอบกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดบัญชี (EBITDA) อยู่ที่ 37,765 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายฐาปนยังย้ำด้วยว่า จากนี้ไปการบาลานซ์ตลาดและการกระจายความเสี่ยงเป็นหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างการเติบโต โดยบริษัทจะขยายธุรกิจในประเทศต่าง ๆ ขยายไลน์อัพสินค้าให้หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยจีนเป็นตลาดที่สำคัญ ทั้งไม่เพียงโอกาสเติบโตจากจำนวนผู้บริโภค

แต่ยังรวมถึงโนว์ฮาวด้านการนำเอไอมาช่วยวางระบบกระจายสินค้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจไทยเบฟฯ ที่มีสินค้าหลากหลาย บริษัทจึงจะทั้งเข้าไปหาพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจและส่งสินค้าเข้าไปวางจำหน่าย นอกจากนี้ ยังมีกัมพูชาและลาวที่ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการขยายตลาดภาคพื้นอาเซียนอีกด้วย

นายประภากร ทองเทพไพโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด การเงินและการบัญชีกลุ่มและผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจสุรา อธิบายว่า ตลาดสุราในเอเชียรวมถึงจีนมีความต้องการสุราพรีเมี่ยมนำเข้าจากต่างประเทศสูง ตัวอย่างเช่น คอนญักเป็นที่ต้องการสูงในจีน ซึ่งเป็นช่องทางที่บริษัทสามารถเจาะเข้าสู่ตลาดได้

ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงเข้าซื้อกิจการลาร์เซนคอนญักในฝรั่งเศสและโรงกลั่นคาร์โดนาในนิวซีแลนด์ เพื่อส่งสินค้าเข้าไปทำตลาดจีนผ่านบริษัทพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านกระจายสินค้าพรีเมี่ยม รวมถึงสิ้นปีนี้จะมีซิงเกิลมอลล์วิสกี้จากไทยด้วย

ส่วนเมียนมา ขณะนี้เร่งเครื่องเต็มที่ทั้งการผลิตและทำตลาดเนื่องจากเกิดช่องว่างในตลาด หลังค่าเงินเมียนมาอ่อนค่าทำให้คู่แข่งที่เป็นสินค้านำเข้ามีราคาสูงขึ้น ผู้บริโภคจึงหันมาดื่มสินค้าของบริษัทแทน พร้อมศึกษาโอกาสสร้างโรงงานของแบนด์แกรนด์รอยัลอีกแห่ง เนื่องจากคาดว่ากำลังผลิตจะเต็มในอีก 3-4 ปี

ไปในทิศทางเดียวกับธุรกิจเบียร์ที่นายไมเคิล ไชน์ ฮิน ฟา ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจเบียร์กล่าวว่า บริษัทเตรียมลงทุน 4 พันล้านบาท ในกัมพูชา เพื่อสร้างแหล่งผลิตเครื่องดื่มทั้งเบียร์ที่จะแล้วเสร็จใน 3 ปี และเครื่องดื่มน็อนแอลกอฮอล์

ทั้งนี้ เพื่อรุกตลาดอย่างเต็มตัวหลังการส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายได้รับผลตอบรับดี ขณะเดียวกัน ตลาดกัมพูชามีการเติบโตรวดเร็ว จึงตัดสินใจเดินหน้าธุรกิจเต็มที่ ตามเป้าให้กัมพูชาเป็นหนึ่งในเครื่องจักรสร้างการเติบโต และการมีส่วนแบ่ง 10% ในเซ็กเมนต์เบียร์พรีเมี่ยมของกัมพูชา

นายโฆษิต สุขสิงห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ และผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานดิจิทัลและเทคโนโลยี กล่าวว่า ในปีนี้โจทย์หลักยังคงเป็นการมองหาตลาดใหม่ๆ เพื่อที่จะขยายตลาดให้กว้างขึ้น ซึ่งตอนนี้กำลังทำการศึกษาตลาดเวียดนามอยู่

เพราะด้วยตลาดชาในประเทศเวียดนามถือเป็นตลาดชาที่ใหญ่ ซึ่งนอกจากขยายตลาดใหม่แล้ว บริษัทก็มีแผนที่จะออกโปรดักต์ใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า มั่นใจจะเติบโตดับเบิลดิจิตอย่างแน่นอน

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร ประเทศไทย กล่าวว่า กลยุทธ์สำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอาหารจากนี้ไปคือ การเจาะตลาดให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศได้มากขึ้น

รวมถึงการเพิ่มจำนวนสาขาร้านอาหารของกลุ่มบริษัทไทยเบฟฯ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงร้านอาหารและผลิตภัณฑ์ได้ง่ายในทุกพื้นที่ จากปัจจุบันไทยเบฟฯ มีร้านอาหารทั้งหมด 771 ร้านในประเทศไทย แบ่งเป็น KFC 440 สาขา โออิชิ 278 สาขา และอื่น ๆ อีก 53 สาขา

ส่วนของการขยายไปต่างประเทศ บริษัทก็มีแพลนที่จะนำแบรนด์ร้านอาหารในเครือที่มีความพร้อมและมีศักยภาพ ไปบุกตลาดต่างประเทศเช่นเดียวกัน ซึ่งโมเดลที่จะนำไปกำลังทำการศึกษาอยู่ อาจจะเป็นได้ทั้งการไปพาร์ตเนอร์ หรือเป็นการทำแฟรนไชส์ เป็นต้น ซึ่งตอนนี้กำลังมองไปที่ CLMV ก่อน ซึ่งแบรนด์หลัก ๆ ที่จะนำไปบุกก่อนอาจจะเป็นโออิชิ โดยคาดว่าจะได้เห็นภายในปี 2025 นี้”