“บิวเทรี่ยม” ขยายสาขาไม่หยุด ลุยออมนิแชนเนลสปีดยอดขายโตเท่าตัว

ค้าปลีกมัลติแบรนด์ความงาม ยึด “สยามสแควร์” ชิงกำลังซื้อคนไทย-ทัวริสต์ “บิวเทรี่ยม” ปักธงสาขาใหม่ ชูคอนเซ็ปต์บิวตี้เดสติเนชั่น พร้อมทัพสินค้ากว่า 1 พันแบรนด์ ผุดสาขาใหญ่ที่สุด พร้อมเปิดกลางปีนี้ ก่อนเดินหน้าบุกออมนิแชนเนล พร้อมดึงบิ๊กดาต้าเฟ้นโปรโมชั่น-แคมเปญตรงจุด รับพฤติกรรมช็อปคนรุ่นใหม่เปลี่ยน/ตลาดแข่งแรง

นายจิรวุฒิ โรจน์รัตนวลี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการลงทุนก่อสร้างสาขาใหม่ ซึ่งจะเป็นสาขาที่มีพื้นที่ใหญ่สุด ตั้งอยู่ระหว่างสยามสแควร์ซอย 2 และซอย 3 ภายใต้คอนเซ็ปต์ของการเป็นจุดหมายปลายทางด้านความงาม หรือบิวตี้เดสติเนชั่น พร้อมกับสโลแกนใหม่ “Where Beauty Becomes More” เพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ตอบสนองกับความต้องการใหม่ ๆ ของผู้บริโภคได้มากขึ้น ด้วยแบรนด์สินค้าความงามที่มีให้เลือกกว่า 1,000 แบรนด์ 50,000 เอสเคยู ครอบคลุมทุกแคทิกอรี่ อาทิ สกินแคร์ เมกอัพ แอ็กเซสซอรี่ ฯลฯ ตั้งแต่แบรนด์แมสทีจไปจนถึงเพรสทีจ หรือเคาน์เตอร์แบรนด์ และการออกแบบร้านที่เน้นให้ลูกค้ามีอิสระในการเลือกซื้อและทดลองด้วยตัวเอง พร้อมกับพนักงานที่สามารถให้คำแนะนำปรึกษาด้านสินค้า ทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีน รองรับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ พร้อมกับบริการออกเอกสารแวตรีฟันด์ เพื่อคืนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว โดยมีแผนจะเปิดให้บริการภายในช่วงกลางปีนี้

นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนการขยายสาขาต่อเนื่อง เพื่อเสริมกับสาขาในปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งหมด 7 แห่ง และช่องทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของร้าน และมาร์เก็ตเพลซอย่างช้อปปี้ โดยจะมุ่งเน้นการผสมผสานแบบออฟไลน์ทูออนไลน์ หรือการทำตลาดแบบออมนิแชนเนล เพื่อรองรับการแข่งขันของตลาดและพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จากการดิสรัปต์ของดิจิทัล

“ดิจิทัลได้เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้บริโภค และสร้างความท้าทายให้กับอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการรับรู้และการตัดสินใจซื้อสินค้า วันนี้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ที่ไหนในโลกก็ได้ และจะเห็นว่าคนรุ่นใหม่ใส่ใจดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งมาจากอิทธิพลของสื่อ อินฟลูเอนเซอร์ และคอนเทนต์รูปแบบต่าง ๆ อย่างการรีวิวสินค้า ตลอดจนการขยายตัวของช่องทางขายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เช่นเดียวกับบิวเทรี่ยม”

นายอติโรจน์ โรจน์รัตนวลี กรรมการผู้บริหาร บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันบิวเทรี่ยมยังได้นำเอาเทคโนโลยีบิ๊กดาต้าเข้ามาช่วยเพิ่มความแม่นยำในการทำตลาด โดยเฉพาะการทำโปรโมชั่นและการสร้างแบรนด์อะแวร์เนสในวงกว้าง พร้อมกับกลยุทธ์การตลาดที่จะปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้า โดยเป้าหมายในปีนี้ ต้องการสร้างยอดขายให้เติบโตมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาเท่าตัว และเป็นผู้นำร้านค้าปลีกความงามมัลติแบรนด์ของไทยในอนาคต

ส่วนภาพรวมของตลาดความงาม และร้านมัลติแบรนด์ความงามมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา จากพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญ และใช้จ่ายกับการดูแลตัวเองมากขึ้น โดยสัดส่วนหลักยังมาจากผลิตภัณฑ์สำหรับผิว ตามด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมและเครื่องสำอาง แต่โดยรวมแล้วสินค้าในกลุ่มเครื่องสำอางมีอัตราการเติบโตมากกว่ากลุ่มอื่น โดยประเภทของเครื่องสำอางที่คนนิยมใช้ มากกว่า 70% ยังเป็นกลุ่มที่ใช้สำหรับใบหน้าและดวงตา

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!