รีบอร์น “วุฒิศักดิ์” คำต่อคำ ทำไมเปลี่ยนทีมบ่อย

ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ปัญหาภายในของ “วุฒิศักดิ์ คลินิก” ทำให้เกิดสุญญากาศในการขับเคลื่อนองค์กรนี้เป็นระยะ ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่ไม่สามารถสานต่อนโยบายต่าง ๆ การปิดตัวลงของสาขาจำนวนมาก พร้อมกับรายได้ที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ ตลอดจนการขายแฟรนไชส์ที่เป็นเรื่องฟ้องร้องในชั้นศาลอยู่ในขณะนี้

หลังจากกลุ่มของ “วิชัย ทองแตง” ได้เข้าถือหุ้นใหญ่ของ “บริษัท อี ฟอร์ แอล เอ็ม จำกัด (มหาชน)” บริษัทแม่วุฒิศักดิ์คลินิกเมื่อปีที่แล้ว ก็มีภาพของการพยายามที่จะฟื้นแบรนด์วุฒิศักดิ์มาเป็นระยะ ทั้งการดึง “ณกรณ์ กรหิรัญ” อดีตซีอีโอผู้ปลุกปั้นแบรนด์นี้กลับมาช่วยบริหารเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะลาออกจากตำแหน่งกรรมการไปเมื่อต้นปี

ล่าสุด วุฒิศักดิ์ได้เปิดตัวแม่ทัพคนใหม่ “กวิน สัณฑกุล” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วุฒิ-ศักดิ์ ดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) อดีตผู้บริหารระดับสูงในแวดวงค้าปลีก ทั้งเทสโก้ โลตัส และแม็คโคร อย่างเป็นทางการในสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับประกาศทิศทางการลงทุนครั้งใหม่ ที่วุฒิศักดิ์จะไดเวอร์ซิฟายออกไปในหลาย ๆ ธุรกิจที่เกี่ยวกับบิวตี้ ไม่เฉพาะแค่คลินิกความงามเท่านั้น บาลานซ์ความเสี่ยงจากรายได้ที่เคยพึ่งพาเพียงขาเดียว และหาโอกาสใหม่ ๆ จากตลาดที่ยังมีช่องว่าง รวมถึงฐานลูกค้าที่กว้างมากขึ้น

Q : วิชั่นของคุณวิชัยเป็นอย่างไร

เป้าหมายของคุณวิชัยต้องการให้คนไทยได้เข้าถึงบริการต่าง ๆ ด้านสุขภาพและความงาม ในราคาที่ affordable โดยการเอาโนว์ฮาวเรื่องเฮลท์ และเน็ตเวิร์กที่มีอยู่เดิม ทั้งเครือข่ายของคุณหมอ โรงพยาบาล มาต่อยอดให้กับวุฒิศักดิ์ ซึ่งต่อจากนี้ไพออริตี้ของธุรกิจจะเปลี่ยนจาก “คลินิก” ซึ่งมีการแข่งขันรุนแรง มีกฎเกณฑ์การควบคุมสูง ไปสู่โมเดลธุรกิจใหม่อย่าง “บิวตี้เซ็นเตอร์” และ “คอสเมติกส์” ที่จะเป็นหลักในการสร้างรายได้แทน ด้วยช่องว่างของตลาดและฐานผู้บริโภคที่ใหญ่กว่าคลินิกจำนวนมาก โดยตัวเลขของตลาดคอสเมติกส์ในปีที่ผ่านมาก็สูงถึง 4 แสนล้านบาท มีการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งอัตราการเติบโตในแต่ละปีสูงกว่าจีดีพี

“เราวางโพซิชั่นของวุฒิศักดิ์เป็น Most Trusted Partner Beauty Brand in ASEAN ซึ่งบิวตี้แบรนด์นี้จะครอบคลุมทั้ง 360 องศา ทั้งภายนอกและภายใน เมื่อก่อนมีแค่คลินิก วันนี้จะมีทั้งกลุ่มธุรกิจศัลยกรรมพลาสติก, เมดิคอล แฮร์ซาลอน, บิวตี้เซ็นเตอร์, เครื่องสำอาง, อาหารเสริม และอคาเดมี เข้ามาเสริมทัพ โดยปีนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 300-350 ล้านบาท”

Q : สุญญากาศที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบแค่ไหน

ต้องยอมรับว่า ในช่วง 5 ปีก่อนที่ผมจะเข้ามา วุฒิศักดิ์มีการปรับเปลี่ยนเจ้าของและโครงสร้างการบริหารหลายรอบ ทำให้เกิดสุญญากาศในการพัฒนาคลินิกมาโดยตลอด ขณะที่ภาพรวมของตลาดก็มีคู่แข่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก มีทั้งคุณหมอที่ถูกดึงตัวไป หรือแยกไปเปิดคลินิกตัวเอง ส่งผลให้คลินิกที่มีอยู่เดิมต้องปิดตัวลงไป กระทบกับลูกค้าที่เคยซื้อคอร์สล่วงหน้ากับเราเอาไว้

ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ระหว่างติดต่อเข้าไปหาวิธีเยียวยา คาดว่าภายในกุมภาพันธ์นี้จะติดต่อครบทุกเคสที่มีปัญหา รวมเป็นมูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท มีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ 576 คน รวมถึงการเยียวยาลูกค้าของสาขาแฟรนไชส์อีกประมาณ 9 ล้านบาท หรืออีก 1,000 กว่าคน

Q : เรื่องการฟ้องร้องแฟรนไชส์มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง

อยู่ในกระบวนการของการฟ้องคดีแพ่งให้เพิกถอนการขายสิทธิ์แฟรนไชส์ในชั้นศาล เพื่อขอความคุ้มครอง เนื่องจากทางบริษัทแม่มองว่าการขายแฟรนไชส์นั้นทำโดยไม่ถูกต้อง รวมถึง

การเจรจาเพื่อประนีประนอมกัน เพราะนโยบายของคุณวิชัยต้องการทำธุรกิจ ไม่ได้อยากเท้าความกับใคร ซึ่งตอนนี้มีการเจรจากับผู้ที่ได้สิทธิ์แฟรนไชส์ไปบ้างแล้วซึ่งนโยบายการขายแฟรนไชส์นั้นได้ทำในช่วงของผู้บริหารชุดก่อนในปี 2560 โดยขายให้กับนักลงทุน 2 ราย รวมเป็น 55 สาขา เหลือเป็นของบริษัทจริง ๆ 65 สาขา และเมื่อไม่มีใครเข้ามาดูแล เกิดสุญญากาศขึ้น ก็ทยอยปิดไปจนเหลือเพียง 16 สาขาในปีที่ผ่านมา และได้เปิดเพิ่มไปอีก 3 สาขา เป็น 19 สาขาในปัจจุบัน

“สมมุติว่า เรามีลิสต์สาขาที่ขายดีอยู่ 1-100 สาขา ตอนที่ขายแฟรนไชส์ไป เขาเอาสาขาที่ขายดีไปหมด ที่เหลือของเราคือรอง ๆ ลงมา และบางที่ก็โลเกชั่นไม่ดี ความท้าทายของเราตอนนี้ก็คือ การเปิดให้ครบ 25 สาขา และทำอิมเมจให้ดีขึ้น”

Q : แล้วแผนการตั้งโรงพยาบาลศัลยกรรม

จะเป็นโมเดลของธุรกิจศัลยกรรมพลาสติก จดทะเบียนในรูปแบบของคลินิกแทน ขนาด 1,500-1,600 ตร.ม. เป็นสแตนด์อะโลน มีทั้งหมด 6 ชั้น เพราะการจดเป็นโรงพยาบาลค่อนข้างยาก โดยจะร่วมทุนกับทางคลินิกศัลยกรรมจากเกาหลี ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับหลาย ๆ เจ้า คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ และสามารถเปิดให้บริการประมาณช่วงไตรมาสที่ 4 แต่จะไม่เน้นขยายสาขามากนัก เพราะต้องการใช้เป็นฐานในการสร้างอิมเมจ และความเชื่อมั่น ให้กับแบรนด์วุฒิศักดิ์โดยรวมมากกว่า

Q : คุณณกรณ์ กับ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ยังบริหารอยู่หรือไม่

คุณณกรณ์เข้ามาบริหารอีกครั้งหลังจากกลุ่มคุณวิชัยเข้ามาถือหุ้นเมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้ลาออกจากกรรมการไปเมื่อต้นปี แต่คงยังถือหุ้นในวุฒิศักดิ์อยู่ เพื่อไปโฟกัสกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมของตัวเองมากกว่า ส่วน ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ปัจจุบันไม่ได้อยู่ในบอร์ดแล้ว

Q : ยังใช้สโลแกน “เพราะความสวย รอไม่ได้” เหมือนเดิมรึเปล่า

ไม่ได้ใช้แล้ว เพราะตอนนี้ อย.ออกกฎควบคุมเรื่องคำต่าง ๆ ที่ใช้ในการโฆษณา ซึ่งคำพวกนี้มันใช้ไม่ได้แล้ว ส่วนการกลับมาสร้างแบรนด์วุฒิศักดิ์ครั้งใหม่จะใช้เมสเสจอะไรก็ต้องติดตาม ซึ่งครั้งนี้เราจะทำการ reintroduce ใหม่แบบรอบด้าน

ต้องจับตาการกลับมาของวุฒิศักดิ์ครั้งนี้ให้ดี