โก๋แก่เพิ่มกำลังการผลิต สปีดรายได้หมื่นล้าน

โก๋แก่ทุ่มงบฯ 200 ล้าน เร่งขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิตในไทย-ต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าเพิ่มไลน์สินค้า “โก๋แก่ลันเตา” คว้า เป๊ก ผลิตโชค ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์มัดใจลูกค้าทุกกลุ่ม หวังก้าวสู่สถานะ “King of Nuts of the world” ตั้งเป้ารายได้โต 10,000 ล้าน ภายใน 10 ปี

นายกฤษดา รวยเจริญทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดถั่วมีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยโก๋แก่ยังเป็นผู้นำตลาดในผลิตภัณฑ์ถั่วทุกชนิด และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 50% และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดถั่วไม่มีแนวโน้มเติบโตขึ้น หรืออาจจะมีบ้างแค่เพียง 1% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในไทยไม่ค่อยดี และยังไม่มีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ซึ่งปีนี้คาดว่าน่าจะกลับมาโตได้มากขึ้น

ขณะที่ภาพรวมของบริษัทในปี 2561 เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักทุกปี หรือมีรายได้ประมาณ 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็นถั่วเปลือย 25% ถั่วเคลือบทอดกับเคลือบอบ 40% และถั่วพรีเมี่ยม 35% โดยที่ผ่านมาโก๋แก่จะเน้นสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านผลิตภัณฑ์และคุณภาพของสินค้า โดยใช้สื่อไวรัลคลิปที่ไม่ได้พูดถึงแบรนด์ตรง ๆ แต่จะสื่อสารแพ็กเกจจิ้งผ่านบรรจุภัณฑ์ เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ถั่วเคลือบจะมีโลโก้ “โก๋แก่” ตัวใหญ่ถือป้ายปกติ ส่วนในกลุ่มถั่วเปลือยและถั่วพรีเมี่ยม โลโก้ “โก๋แก๋” จะไม่ได้โดดเด่น

ทั้งนี้ก็เพื่อให้มีตำแหน่งการตลาดที่ชัดเจน สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจจากนี้ไป บริษัทได้เตรียมงบฯการตลาดกว่า 100 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะรีเฟรชแบรนด์ใหม่ และเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ “โก๋แก่ลันเตา” และใช้พรีเซ็นเตอร์ในการส่งเสริมการตลาด โดยดึง “เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร” ทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ โก๋แก่ลันเตา เนื่องจาก เป๊ก ผลิตโชค เป็นบุคคลที่มีบุคลิกสนุกสนาน มีแฟนคลับหลากหลายตั้งแต่เด็กวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน สามารถช่วยสื่อสารแคแร็กเตอร์แบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดยกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน นักศึกษา และคนวัยทำงาน

พร้อมกันนี้ยังได้ทุ่มงบฯ 200 ล้านบาท ขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อรองรับการเติบโตจากเดิมที่ผลิตอยู่ที่วันละ 25 ตัน เพิ่มเป็นวันละ 30 ตัน และเน้นการใช้เครื่องจักรครบวงจรมากขึ้น ซึ่งนอกจากการทำตลาดในประเทศแล้ว โก๋แก่ยังมีแผนที่จะขยายโรงงานไปยังประเทศไต้หวัน และเวียดนาม ในเร็วนี้ ๆ อีกด้วย

ปัจจุบัน “โก๋แก่” มีช็อป 9 แห่ง ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี โดยปีนี้ยังเตรียมเพิ่มช็อป แต่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาคอนเซ็ปต์ให้ตอบรับนักท่องเที่ยว เพราะพบว่าผลิตภัณฑ์โก๋แก่เป็นที่นิยมในการซื้อกลับประเทศจนติดอันดับในไทย นอกจากนี้ยังมีสินค้าเฟรชสแน็ก เช่น ไอศกรีมถั่ว น้ำนมถั่ว บางสาขาจะเป็นเค้กชิฟฟ่อนสอดไส้ (ปังโก๋) ซึ่งกำลังพัฒนาคอนเซ็ปต์เฟรชสแน็กนี้ให้เป็นร้านสแตนด์อะโลน คาดว่าจะเปิดสาขาแรกในห้างได้ภายในปี 2562

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีมียอดขายประมาณ 3,000 ล้านบาท และเพิ่มยอดขายให้ได้ 10,000 ล้านบาท เพื่อก้าวสู่สถานะ “King of Nuts of the World” ภายใน 10 ปี เชื่อมั่นว่าการขยายโรงงานการผลิตจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง