“โออิชิ” รับมือโควิดระลอก 3 ผุดสาขาไซซ์เล็กรับดีลิเวอรี่

“โออิชิ” กางแผนรับมือโควิด-19 ระลอก 3 เน้นอัดสต๊อกสินค้าทุกช่องทางรับดีมานด์คนอยู่บ้าน-เวิร์กฟรอมโฮม ด้านร้านอาหารผุดเมนูดีลิเวอรี่ไซซ์ใหญ่ทานได้ทั้งครอบครัว ปรับแคมเปญชิงโชคท่องเที่ยวเป็นชิงรถยนต์ พร้อมเดินหน้าทุ่มงบฯการตลาด 400-500 ล้าน ระดมแคมเปญเทลเลอร์เมดกระตุ้นยอด พร้อมผุดสาขาไซซ์เล็กทั้งฟู้ดทรัก-คีออสก์ เจาะลึกผู้บริโภคถึงระดับหมู่บ้าน

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันทิศทางตลาดทั้งเครื่องดื่ม อาหาร และร้านอาหารในขณะนี้ไม่แน่นอนอย่างมาก เพราะการระบาดระลอก 3 ที่เพิ่งเกิดขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าครั้งนี้ผลกระทบอาจรุนแรงและหนักยิ่งกว่าที่ผ่านมาทั้งหมด

สำหรับบริษัทเตรียมรับมือสถานการณ์ในช่วงนี้เอาไว้แล้ว โดยจะเน้นเรื่องการรักษาสต๊อกสินค้าทั้งเครื่องดื่มและอาหารให้เพียงพอในทุกช่องทางจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านค้า รวมถึงปรับเมนูในร้านอาหารของบริษัท เพิ่มเมนูเทกโฮม-ดีลิเวอรี่แบบไซซ์ใหญ่สำหรับทานกับครอบครัว เพื่อรองรับดีมานด์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อไปตุนดื่มที่บ้านระหว่างเว้นระยะห่าง-เวิร์กฟรอมโฮม การทานอาหารกับครอบครัวที่บ้าน หรือการทานที่ร้านตามปกติ

พร้อมจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้บริโภควัยรุ่นและวัยเริ่มทำงานที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ยังต้องการสินค้าที่คุ้มค่าและน่าตื่นเต้นอยู่ จึงยังเดินหน้าแผนการตลาดและการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งบฯการตลาดประมาณ 400-500 ล้านบาท ใกล้เคียงกับก่อนการระบาดของโควิด-19

ทั้งเพื่อลอนช์สินค้าใหม่ที่เน้นฟังก์ชั่นและสุขภาพมากขึ้น รวมถึงจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย-ขยายฐานลูกค้าที่ปรับให้เข้ากับสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคหรือเทลเลอร์เมด แทนการหว่านแหเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพต่อเม็ดเงินลงทุนสูงสุด แต่ยังคงจุดเด่นด้านความคุ้มค่า-น่าตื่นเต้นไว้

เริ่มจากช่วงหน้าร้อนนี้ ปรับแคมเปญชิงโชคจากทริปท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นชิงรถยนต์-จักรยานยนต์แทน พร้อมเจาะกลุ่มสูงวัยด้วยการเปิดรับสมัครสมาชิกบัตรซีเนียร์การ์ดซึ่งให้ส่วนลด 30% สำหรับผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป และหลังจากนี้จะเพิ่มความสะดวกสไตล์ไร้สัมผัสด้วยการนำอีวอลเซอร์และอีวอลเลตมาใช้

ด้านสินค้าใหม่ทั้งกลุ่มเครื่องดื่มและอาหารพร้อมทาน จะเพิ่มเมนูที่แปลกใหม่และมีจุดแข็งด้านสุขภาพมากขึ้น รวมถึงต่อยอดความสำเร็จของการลอนช์ซอสโออิชิ ด้วยการลอนช์สินค้าในแนวเดียวกันนี้เพิ่มอีก เพื่อใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของแบรนด์

“ด้านสินค้ากัญชา-กัญชงนั้น บริษัทมีการวิจัยพัฒนาอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรอความชัดเจนด้านความปลอดภัยและกฎระเบียบต่าง ๆ จากภาครัฐก่อนจึงจะสามารถดำเนินการด้านการตลาดต่อไปได้”

สำหรับแผนการขยายสาขานั้น ปีนี้จะเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด ด้วยการใช้โมเดลหลากหลาย เน้นขนาดเล็ก-คล่องตัวเพื่อบาลานซ์จำนวนสาขาใน-นอกห้าง อาทิ ฟู้ดทรักสำหรับเจาะหมู่บ้าน-อาคารสำนักงาน คีออสก์โออิชิทูโกจำหน่ายเมนูเทกโฮมในห้างเพื่อรับพฤติกรรมการใช้เวลาเดินห้างสั้นลง รวมถึงร้านพรีเมี่ยมอะลาคาร์ต ซาคาแอะและโฮยู ที่มุ่งจับกลุ่มรักสุขภาพ เป็นต้น

“เราจะใช้จำนวนสาขากว่า ให้เป็นประโยชน์รับกระแสดีลิเวอรี่ ด้วยการใช้กำลังผลิตที่เหลือในช่วงนี้มารองรับออร์เดอร์ดีลิเวอรี่ รวมถึงกำลังศึกษาโอกาสพัฒนาสาขาเป็นคลาวด์คิตเช่นรับออร์เดอร์ของแบรนด์อื่น ๆ ในเครือด้วย”

นอกจากนี้เดินหน้าประหยัดค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้บริหารสต๊อกร้านอาหารให้มีของเหลือน้อยที่สุด และการเจรจาค่าเช่าพื้นที่ รวมถึงการใช้งบฯการตลาดอย่างคุ้มค่า และอื่น ๆ โดยมั่นใจว่าประสบการณ์รับมือการระบาดในปีที่ผ่านมาของทั้งพนักงานและทีมบริหารจะช่วยให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้แน่นอน