แฟมิลี่มาร์ท ลุยสะดวกซื้ออัตโนมัติ ลั่น…3 ปี ปูพรม 1,000 สาขา

market move

หลังปล่อยให้ยักษ์ตะวันตกอย่างอเมซอนลูบคมด้วยการชิงตัดหน้าเปิดตัวร้านสะดวกซื้ออัตโนมัติไปก่อน

แต่ล่าสุดญี่ปุ่นเตรียมเดินหน้าทวงคืนบัลลังก์ผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซื้อและจ้างเทคโนโลยี โดย “แฟมิลี่มาร์ท” หนึ่งในสามยักษ์เชนร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นประกาศแผนปูพรมร้านสะดวกซื้ออัตโนมัติจำนวน 1,000 สาขาทั่วเกาะญี่ปุ่น ภายในปีงบฯ 2567 หรืออีกประมาณ 4 ปีข้างหน้า

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า “แฟมิลี่มาร์ท” เตรียมเดินหน้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้ออัตโนมัติซึ่งไม่ต้องมีพนักงานคิดเงินนี้ให้ครบ 1,000 สาขาทั่วญี่ปุ่น ภายในปีงบฯ 2567 หรือสิ้นเดือนมีนาคม 2568 โดยร้านโมเดลนี้จะใช้จุดเด่นเรื่องขนาดที่เล็กและมีต้นทุนในการดำเนินการต่ำกว่าสาขาปกติ มุ่งเจาะทำเลสำคัญอย่างหน้าสถานีรถไฟฟ้า รวมไปถึงพื้นที่ที่มีประชากรเบาบางและมีร้านค้าปลีกอื่น ๆ น้อย ซึ่งพื้นที่ในเงื่อนไขนี้กำลังเพิ่มมากขึ้นทั่วญี่ปุ่นจากปัญหาประชากรลดลงและสังคมสูงวัย

โดยระบบคิดค่าสินค้าของร้านแฟมิลี่มาร์ทโมเดลใหม่จะใช้การติดตั้งกล้องบนเพดาน พร้อมระบบเอไอสำหรับวิเคราะห์ภาพ ร่วมกับระบบตรวจวัดน้ำหนักสินค้าที่ติดตั้งไว้ที่ชั้นวางสินค้า เพื่อตรวจว่าลูกค้าแต่ละรายหยิบสินค้าใดไปบ้าง โดยรายการสินค้าและจำนวนเงินจะแสดงที่หน้าจอเมื่อลูกค้ามายืนที่เคาน์เตอร์คิดเงิน ส่วนการชำระค่าสินค้าสามารถทำได้ทั้งด้วยเงินสดและระบบอิเล็กทรอนิกส์

ระบบนี้ นอกจากจะช่วยลดความยุ่งยากในการคิดราคาสินค้าด้วยการสแกนบาร์โค้ดที่แม้พนักงานที่ถูกฝึกมายังมีปัญหาในบางครั้งแล้ว ยังช่วยป้องกันการขโมยสินค้าได้อีกด้วย เนื่องจากระบบจะบันทึกการหยิบสินค้าทันทีที่หยิบออกจากชั้นวาง

Advertisment

อย่างไรก็ตาม แฟมิลี่มาร์ทยืนยันว่า เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ระบบนี้จะไม่บันทึกหรือจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการระบุตัวบุคคล เช่น ภาพใบหน้า รวมถึงลูกค้าไม่ต้องติดตั้งแอป หรือยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้บริการร้าน

ปัจจุบันแฟมิลี่มาร์ทมีสาขาในญี่ปุ่นประมาณ 16,000 สาขา และเปิดสาขาใหม่เฉลี่ยปีละ 200-500 สาขา ซึ่งหลังจากนี้ส่วนใหญ่ของสาขาที่เปิดใหม่จะเป็นโมเดลไร้พนักงาน

“เคนซุเกะ โฮโซมิ” ประธานของยักษ์ร้านสะดวกซื้อกล่าวกับสำนักข่าวนิกเคอิ ว่า โมเดลใหม่นี้ช่วยให้บริษัทสามารถเข้าไปตั้งสาขาในทำเลที่เดิมถือว่าไม่มีศักยภาพเพียงพอได้ เนื่องจากแม้จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงกว่าสาขาปกติ 20% แต่ชดเชยด้วยค่าดำเนินการที่ต่ำกว่ามาก เพราะใช้พนักงานน้อยลง เพียงแค่สำหรับรับและเติมสินค้าเข้าชั้นวางเท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคในพื้นที่ที่ไม่มีร้านค้าปลีกให้เข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

สอดคล้องกับข้อมูลในวงการสะดวกซื้อที่ระบุว่า วงการร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่นที่มีสาขารวมกันประมาณ 5 หมื่นสาขานั้น เกิดการหดครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2562 หลังจำนวนประชากรที่ลดลงและสังคมสูงวัยทำให้หลายทำเลมีศักยภาพลดลงจนต้องปิดสาขา ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องเร่งหาโซลูชั่นเพื่อกลับเข้าไปตั้งสาขาในทำเลเหล่านี้

Advertisment

แม้แต่ภาครัฐเองยังต้องร่วมมือด้วยการผ่อนคลายกฎความปลอดภัยด้านอาหารที่เดิมกำหนดให้ร้านสะดวกซื้อทุกแห่งต้องมีพนักงานประจำในร้านเพื่อตรวจคุณภาพ-เก็บอาหารที่หมดอายุออก โดยเปลี่ยนเป็นให้ใช้พนักงานเดินสายเช็กและจัดเก็บสินค้าจากร้านแต่ละสาขาแทนได้ ซึ่งการผ่อนคลายนี้เปิดช่องให้เชนร้านสะดวกซื้อสามารถนำโมเดลไร้พนักงานมาใช้ได้

ขณะที่ผู้เล่นรายอื่น ๆ ไม่ได้อยู่เฉย แต่ต่างเร่งพัฒนากลยุทธ์ของตนเอง เช่น เซเว่นอีเลฟเว่นจับมือกับยักษ์เทคโนโลยีเอ็นอีซีพัฒนาร้านไร้พนักงานพร้อมระบบจ่ายเงินด้วยการสแกนใบหน้า ส่วนลอว์สันเปิดตัวแอป ที่ลูกค้าสามารถสแกนบาร์โค้ดของสินค้าและชำระเงินได้ด้วยตนเอง ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีของรายใดจะประสบความสำเร็จ