สธ.เผยเตรียมนำเข้ายาต้านโควิด “โมลนูพิราเวียร์” ธ.ค.นี้

โมลนูพิราเวียร์
PHOTO : Handout / Merck & Co,Inc. / AFP

สธ.เผยข่าวดี เตรียมนำเข้ายาต้านโควิดโมลนูพิราเวียร์ ชี้จัดทำหนังสือสัญญาซื้อขายเสร็จแล้ว เหลือเพียง FDA อเมริกา-อย.ไทยอนุมัติ คาดนำเข้าราว ธ.ค. 64-ม.ค. 65 พร้อมเผยเตรียมจับมือเมอร์คทำการศึกษายาต้านไวรัสในไทย นำร่อง 5 โรงพยาบาล รพ.ราชวิถีร่วมด้วย

วันที่ 6 ตุลาคม 2564 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สธ.ได้พูดคุยหารือเรื่องยาต้านโควิดมาโดยตลอด

สำหรับยาต้านโควิด “โมลนูพิราเวียร์” โดยเมอร์ค (Merck) ประเทศสหรัฐอเมริกา มีฤทธิ์ยับยั้งการจำลองตัวเองของเชื้อโควิด โดยจากการวิจัยแบบสุ่มระยะที่ 3 ในรูปแบบ MOVe-OUT-Trial ในกลุ่มผู้ป่วยอาการเล็กน้อย-ปานกลาง มีปัจจัยเสี่ยง อาทิ โรคประจำตัว หรือกลุ่มสูงอายุ ซึ่งจะให้ยา 5 วันแรกตั้งแต่เริ่มมีอาการ พบว่าสามารถยับยั้งอาการรุนแรง หรือการเข้า รพ. จากโควิดสายพันธุ์ปัจจุบันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเดลต้า แกมม่า ตลอดจนสายพันธุ์เฝ้าระวังอย่างมิวได้กว่า 50%

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์

“โมลนูพิราเวียร์จากการทดลองในคนอาการเล็กน้อย-ปานกลาง พบว่าได้ผลเป็นอย่างดี ส่วนการศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยโควิดอาการหนักพบว่าไม่ได้ผล จึงได้พับแผนไปก่อนหน้านี้ และศึกษาเพียงในกลุ่มอาการเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น”

เบื้องต้นเมอร์คบริษัทผู้ผลิตได้ดำเนินการยื่นขอการขึ้นทะเบียนในภาวะฉุกเฉินกับองค์การอาหารและยา หรือ FDA สหรัฐอเมริกา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากได้รับการอนุมัติโมลนูพิราเวียร์จะกลายเป็นยาต้านโควิดชนิดเม็ดตัวแรกของโลกที่ได้รับการรับรองจากอเมริกา ทั้งนี้ ทางเมอร์คระบุว่า ตั้งเป้าจะผลิตยาโมลนูพิราเวียร์สำหรับ 10 ล้านคน ภายในปี 2564 นี้

สำหรับราคาในแต่ละประเทศจะไม่เท่ากัน ไทยเป็นประเทศรายได้ปานกลางจะได้ราคาถูกกว่าประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีรายได้สูง ขณะเดียวกันไทยก็อาจจะซื้อแพงกว่าประเทศที่รายได้ต่ำ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นนโยบายของบริษัทที่ต้องการกระจายยาต้านโควิดไปในหลาย ๆ พื้นที่อย่างเป็นธรรม

ส่วนไทม์ไลน์สำหรับการนำเข้าโมลนูพิราเวียร์ในไทย ได้หารือรายละเอียดกับทางเมอร์คประเทศไทย ตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา โดยวานนี้ (5 ต.ค.) ได้จัดทำร่างหนังสือสัญญาซื้อขายจำนวน 40 หน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงให้เมอร์คผ่านการขึ้นทะเบียนกับ FDA อเมริกา ในราวเดือน ต.ค.-พ.ย.

ก่อนที่จะมาขึ้นทะเบียนในไทยผ่านได้ราวช่วง พ.ย.-ธ.ค. ซึ่งคาดว่าในไทยจะได้รับยาโมลนูพิราเวียร์มาใช้ต้านไวรัสได้เร็วสุด ธ.ค. ปีนี้ หรือช้าสุดช่วง ม.ค. ปี’65

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้ร่วมกับเมอร์คในการทำการศึกษาวิจัยการใช้ยาต้านโควิดโมลนูพิราเวียร์ในประเทศไทยผ่านโรงพยาบาล 5 แห่ง ซึ่ง รพ.ราชวิถีในสังกัดกรมการแพทย์จะเป็นโรงพยาบาลอีกแห่งที่ได้รับการวิจัยในครั้งนี้ แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุมัติจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน คาดว่าจะได้เริ่มศึกษาได้ภายใน ธ.ค. นี้