IMH จัดทัพใหญ่รุกเฮลท์แคร์ ตั้งโฮลดิ้ง-ระดมทุนซื้อกิจการ

รพ.

อินเตอร์เมดิคัล แคร์ฯปรับโครงสร้างตั้งบริษัทโฮลดิ้งเข้าเทกโอเวอร์ 1-2 รพ. เสริมแกร่งดัน รพ.ประชาพัฒน์เข้าระดมทุนตลาดหลักทรัพย์ฯปี’65 จับกลุ่มบัตรทอง-ประกันสังคมก่อนต่อแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจเฮลท์แคร์รับการเติบโตอนาคต ชี้ปี’64 รายได้ทะลุ 800 ล้าน คาดปีหน้าอานิสงส์โควิดหนุนต่อเนื่องโตไม่ต่ำกว่า 15%

ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH ผู้บริหาร รพ.อินเตอร์เมด และ รพ.ประชาพัฒน์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันธุรกิจ รพ.และสุขภาพได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการรักษาผู้ป่วยโควิด อาการเรื้อรังหลังหายป่วยโควิด ตลอดจนการรับฉีดวัคซีนป้องกันโควิด คาดว่าภาพรวมธุรกิจ รพ.จะเน้นด้านการรักษาเพื่อรับมือกับโควิดไปจนถึงกลางปี 2565

โดยเฉพาะการเข้ามาของโควิดสายพันธุ์ B.1.1.529 หรือโอไมครอนที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ จนทำให้ทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับการด้อยประสิทธิภาพของวัคซีนลง และอาจคุมการแพร่ระบาดไม่อยู่ จะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญของธุรกิจเฮลท์แคร์ในประเทศไทย

เพื่อรองรับแนวโน้มดังกล่าว IMH จึงได้ปรับยุทธศาสตร์ 2 โรงพยาบาลในเครือด้วยการหันมารับกลุ่มลูกค้าโควิดมากขึ้น เพื่อเติมจุดแข็งสู่การเป็นโรงพยาบาลโควิดครบวงจร ทั้งการให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ATK และ RT-PCR ให้บริการฉีดวัคซีน บริการตรวจหาภูมิคุ้มกัน และการรับรักษาผู้ป่วยกลุ่มเหลือง-แดง จากเดิมที่เน้นการให้บริการใน 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ รพ.อินเตอร์เมด รับตรวจสุขภาพลูกค้ากลุ่มองค์กรในรูปแบบ B2B ส่วน รพ.ประชาพัฒน์เดิมเน้นรับกลุ่มลูกค้าบัตรทองและประกันสังคม และจากการปรับตัวรับมือฝ่าวิกฤตโควิดที่ผ่านมา ทำให้รายได้รวมในปี 2564 จะอยู่ที่ 800 ล้านบาท มีกำไร 386 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี เพื่อต่อยอดความสำเร็จภายในปี 2565 IMH จะเริ่มปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ด้วยการเปลี่ยนบริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ฯเป็นโฮลดิ้งคอมปะนีแทน เพื่อเข้ามาลงทุนถือหุ้นในบริษัทอื่น ๆ พร้อมกับจะนำ รพ.ประชาพัฒน์เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายในไตรมาส 4 ปี 2565 สร้างความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์ประชาพัฒน์

และในอนาคตจะผลักดันให้กลายเป็นแกนของธุรกิจ รพ.แทนอินเตอร์เมด และหากดำเนินการเป็นไปตามแผน เฟสต่อ ๆ ไปจะเข้าควบรวมซื้อกิจการโรงพยาบาลอื่น ๆ อีก 1-2 แห่งเพิ่มในโซนทราฟฟิกสูง พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล โดยใช้ชื่อแบรนด์ “ประชาพัฒน์” ขยายเครือข่ายเฮลท์แคร์ให้มากขึ้น ส่วนหนึ่งจะช่วยในด้านการเติบโตด้านรายได้ อีกส่วนหนึ่งการเป็นเครือข่ายจะช่วยซินเนอร์ยีลดต้นทุนได้หลายประการ

ซีอีโอ IMH ย้ำว่า โพซิชั่นของ รพ.ประชาพัฒน์จะเน้นรับกลุ่มลูกค้าสิทธิบัตรทอง ประกันสังคม และเงินสด ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้าเฉพาะบัตรทองราว 1-2 แสนราย โดยการโฟกัสไปที่กลุ่มบัตรทองโดยการจับมือเป็นคู่ค้ากับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เนื่องจากมีรายได้มั่นคงสูงและสอดรับกับนโยบายการส่งเสริมสุขภาพกลุ่มประชาชนให้ครอบคลุมของภาครัฐ

ขณะที่ รพ.อินเตอร์เมดที่เน้นการบริการด้านตรวจสุขภาพเป็นหลัก ในไตรมาส 4 เป็นต้นไปยังคงปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ในประเทศ โดยเดินหน้ากลยุทธ์การเข้าหาลูกค้าผ่านการทำแพ็กเกจตรวจสุขภาพนอกสถานที่ให้กับกลุ่มลูกค้าประเภทองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องการตรวจสุขภาพและตรวจโควิด-19 ให้กับพนักงานทั้งในรูปแบบ ATK และ RT-PCR รวมไปถึงการมองหาคู่ค้าองค์กรใหญ่รายใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น จากเดิมที่มีฐานลูกค้าราว 1.2 ล้านราย ควบคู่กันนี้ได้ต่อยอดนำบิ๊กดาต้าจากฐานลูกค้าทั้งหมดมาประชาสัมพันธ์ รพ.เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง


“ในอนาคต IMH ได้เตรียมต่อยอดอีโคซิสเต็มของธุรกิจให้สมบูรณ์ด้วยการแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ในกลุ่มเฮลท์แคร์นอกเหนือจากธุรกิจ รพ.เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้พอร์ต และคาดว่ากลยุทธ์ทั้งหมดจะทำให้บริษัทเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 15% อย่างแน่นอน” ดร.สิทธิวัตน์กล่าวทิ้งท้าย