PRINC ตั้ง “ธานี มณีนุตร์” นั่งแท่น CEO-COO ลุยขยาย รพ.-คลินิกเมืองรอง

PRINC ปรับผังโครงสร้างองค์กร แต่งตั้งนายธานี มณีนุตร์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ควบประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เดินหน้าแผนขยาย รพ.-คลินิกเมืองรอง สร้างการเติบโตยั่งยืน

วันที่ 5 มกราคม 2565 ดร.สาธิต วิทยากร ประธานคณะกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ผู้บริหารเครือโรงพยาบาลพริ้นซ์ ประกาศปรับโครงสร้างองค์กร โดยแต่งตั้งนายธานี มณีนุตร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) เพื่อดูแลธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน คลินิก และสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุโดยเฉพาะ

ด้านนายธานี มณีนุตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโอไมครอน ถือเป็นความท้าทายอีกระลอก ล่าสุดระดมสรรพกำลังทั้งบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ขยายเตียงรองรับ พร้อมกับเสริมศักยภาพทางการแพทย์ เชื่อมโยงกันในเครือโรงพยาบาล เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ที่เครือโรงพยาบาลตั้งอยู่ เพื่อพร้อมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดที่มีแนวโน้มอัตราผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ กลยุทธ์สำคัญในระยะกลางถึงยาวนั้น ยังคงเสริมศักยภาพทางการแพทย์ เสริมทีมแพทย์และบุคลากรการแพทย์สู่เมืองรอง พร้อมผลักดันนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ผสมผสานทางการแพทย์ เพื่อดูแลผู้ป่วยให้ครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงสุด

พร้อมขยายบริการทางการแพทย์เพื่อดูแลชุมชมและสังคม สร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน (Creating Shared Value) และตั้งเป้าเป็นเครือโรงพยาบาลใส่ใจชุมชนและสิ่งแวดล้อม (Society and Green Hospital) ในปี 2565 นี้ด้วย

ขณะเดียวกันยังคงเดินหน้าพร้อมพันธมิตรเดิมและเปิดรับพันธมิตรใหม่ เพื่อร่วมขยายโรงพยาบาลจากปัจจุบัน 13 แห่ง ให้ครบ 20 แห่งในปี 2566 และคลินิกใกล้บ้านใกล้ใจ ซึ่งเป็นคลินิกปฐมภูมิในเขต กทม. จากปัจจุบัน 17 แห่ง เพิ่มเป็น 20 แห่ง ภายในปี 2565 และยังคงเป้าหมายขยายเป็น 100 แห่งภายในปี 2567

ส่วนเป้าหมายการเติบโตของผลประกอบการทั้งปี 2565 ตั้งเป้ากำไรสุทธิจะเป็นบวกได้ หลังจากก่อนหน้านี้ 9 เดือนแรกของปี 2564 พลิกกำไรกลับมาเป็นบวก หลังผ่านพ้นระยะเวลาการลงทุนของธุรกิจโรงพยาบาลไปแล้ว ส่วนการเติบโตของผลการดำเนินงาน Hospital คาดว่า EBITDA ขยับดีขี้น เฉลี่ยที่ 40% ตามภาพรวมของธุรกิจโรงพยาบาลที่ยังคงขยายตัวได้ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ด้าน Health & Wellness และธุรกิจสุขภาพที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่เพิ่มเติมในปีนี้อีกด้วย