‘ปุ้มปุ้ย’ ตรึงราคาสู้-หันเจาะช่องว่าง CLMV

‘ปุ้มปุ้ย’ตรึงราคาสู้-หันเจาะช่องว่างCLMV

ตลาดปลากระป๋อง 9 พันล้าน ช้ำหนัก ผู้ประกอบการกุมขมับ วัตถุดิบขาดแคลน แบกรับต้นทุนอ่วม “ปุ้มปุ้ย” เร่งปรับตัวเพิ่มดีกรีปลุกตลาด เดินหน้าเพิ่มไลน์อัพสินค้า ปลาปรุงรส-หอยปรุงรส-อาหารพร้อมทานปิ๊งไอเดียลอนช์ชุดเสริมบุญ 99 บาท ลุยขายออนไลน์ ด้านต่างประเทศ หันเพิ่มช่องทางขายรับช่องว่างตลาด CLMV ตั้งเป้าปี 2565ยอดขายโต 10%

นางปวิตา โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและปลากระป๋อง “ปุ้มปุ้ย” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า

สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นับเป็นความท้าทายของทุก ๆ อุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมปลากระป๋อง มูลค่าราว ๆ 8,000-9,000 ล้านบาท ที่ปัจจุบันมีอัตราการเติบโตชะลอตัว

แม้ช่วงระหว่างปี 2563-2564 ธุรกิจปลากระป๋องและอาหารกระป๋องได้รับอานิสงส์จากวิกฤตโควิด ทำให้สินค้าปุ้มปุ้ยมียอดขายโตขึ้น 10% เนื่องจากผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อกักตุนเอาไว้

แต่เมื่อช่วงปลายปี 2564 อัตราการจับจ่ายเริ่มชะลอตัวลง หลัก ๆ มาจากผลพวงสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่าย

ขณะเดียวกัน ตลาดปลากระป๋องยังเจอปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ ทั้งปลาแมคเคอเรลและปลาซาร์ดีน ที่ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ รวมทั้งบริษัทเองที่ต้องหันมาให้ความสำคัญในการวางแผนและบริหารจัดการวัตถุดิบให้เพียงพอ

ADVERTISMENT

เพื่อไม่ให้สินค้าขาด โดยในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด การขนส่งมีปัญหา เนื่องจากมีปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ทำให้วางแผนจัดการวัตถุดิบได้ยากและจัดส่งสินค้าได้ช้าลง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทยังไม่มีการปรับราคาสินค้า พยายามตรึงราคากลุ่มปลากระป๋องไว้ให้ได้มากสุด

“บริษัทมีสินค้าหลายรายการ บางกลุ่มมีมาร์จิ้นสูง ก็จะนำมาช่วยบาลานซ์รายได้ ที่สำคัญ นอกจากบริษัทจะต้องติดตามสถานการณ์ราคาวัตถุดิบอย่างใกล้ชิดแล้ว อีกด้านหนึ่งก็จะมีการควบคุมและป้องกันโรงงาน (อ.เมืองตรัง จ.ตรัง)

ADVERTISMENT

ซึ่งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ไม่ให้เกิดการติดเชื้อหรือมีการแพร่ระบาด เพื่อไม่ให้กระทบกระบวนการผลิตได้”

นางปวิตากล่าวต่อถึงกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานในปี 2565 ว่า โจทย์สำคัญจะเน้นไปที่การให้น้ำหนักในเรื่องของการสร้าง brand awareness ด้วยการโฆษณาเพื่อโปรโมตแบรนด์สินค้า

สร้างการรับรู้ให้ลูกค้ารู้จักปุ้มปุ้ยมากขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมาปุ้มปุ้ยยังไม่เล่นตลาดเชิงรุกมากนัก ขณะเดียวกันก็จะเน้นการจัดโปรโมชั่นร่วมกับช่องทางขายต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดิชั่นนอลเทรด

นอกจากนี้ยังจะเน้นการเพิ่มน้ำหนักช่องทางอีคอมเมิร์ซ ทั้งแพลตฟอร์มช้อปปี้, ลาซาด้า รวมถึงช่องทางไลน์แอดของบริษัทมากขึ้นด้วย

ขณะเดียวกัน บริษัทยังให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและรสชาติใหม่ ๆ ที่มาจากการวิจัยความต้องการของผู้บริโภค เพื่อเพิ่มทางเลือกและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์

โดยไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มปลากระป๋องเท่านั้น แต่จะมีทั้งกลุ่มปลาปรุงรส หอยปรุงรส อาหารพร้อมทาน และเครื่องแกงสำเร็จรูป รวมทั้งราคาที่เหมาะสม ควบคู่กับการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ภายนอกให้ทันสมัย

จากปัจจุบันบริษัทมีสินค้ามากกว่า 50 รายการ อาทิ กลุ่มปลาในซอสมะเขือเทศ กลุ่มปลาปรุงรส กลุ่มหอยปรุงรส กลุ่มอาหารพร้อมทานในซองปิดผนึก เช่น แกงส้มปลามาฮิ มาฮิ ใส่ยอดมะพร้าว คั่วกลิ้งไก่ ไข่พะโล้ และกลุ่มสแน็กหอยลายอบกรอบ เป็นต้น

ล่าสุดได้ลอนช์แคมเปญใหม่ ชุดเสริมบุญ ที่ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ปุ้มปุ้ย ทั้งปลากระป๋อง ข้าวสวยพร้อมรับประทาน และน้ำดื่ม ราคาเริ่มต้น 99 บาท

ด้านกลยุทธ์การทำตลาดในต่างประเทศ บริษัทมีการส่งออกสินค้าเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากสุดยังคงเป็นกลุ่มปลาในซอสเข้มข้น ราดพริก และปลาทอด เป็นต้น

จากนี้ต้องขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายมากขึ้น เพราะปัจจุบันสินค้ายังไม่ครอบคลุม ตลาดยังมีช่องทางอยู่

นอกจากนี้ บริษัทต้องให้ความสำคัญกับการทำงานภายในองค์กร พนักงานต้องปรับตัวให้สอดรับกับยุคดิจิทัลดิสรัปชั่น กระบวนการทำงานทุกอย่างต้องมีความคล่องตัว

พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และสำหรับปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 10% และปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ แบ่งเป็น ตลาดในประเทศ 70% ต่างประเทศ 30%