เซ็นทรัล รีเทล ประกาศลงทุนแสนล้าน บุกเวียดนาม-อิตาลี

เซ็นทรัล รีเทล

 

ธุรกิจค้าปลีกส่งสัญญาณฟื้นหลังโควิด “ซีอาร์ซี” กางแผน 5 ปี ทุ่มงบฯกว่า 100,000 ล้าน บุกหนัก ไทย-เวียดนาม-อิตาลี พร้อมเสริมแกร่งเทคโนโลยี เดินหน้าผนึกพันธมิตร ขยายการเติบโต ขึ้นแท่นผู้นำค้าปลีกเอเชีย

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิเผยว่า การระบาดของโควิด-19 ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบธุรกิจรวมทั้งซีอาร์ซี โดยในปี 2563-2564 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี

อย่างไรก็ตาม บริษัทเริ่มมองเห็นสัญญาณบวกตั้งแต่สิ้นปี 2564 ที่ผ่านมา ทำให้คาดการณ์และมั่นใจว่าในปี 2565 จะสามารถพลิกกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง ส่วนเรื่องกำลังซื้อที่ชะลอตัวในปัจจุบันมองว่าการที่ภาครัฐจะกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายมากขึ้นท้ายที่สุดอยู่ที่ความเชื่อใจ

ดังนั้น หากภาครัฐสร้างความเชื่อใจให้ผู้บริโภค นั่นคือสิ่งสำคัญ ที่ผ่านมาไตรมาส 4/64 ไปจนถึง ก.พ. 65 เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้บริโภคระดับล่างถูกกระทบเยอะ มีหนี้สินมากขึ้น สินค้าราคาก็แพงขึ้น จึงต้องรีบแก้ปัญหาเรื่องอัตราเงินเฟ้อ และปัญหาราคาสินค้าแพงที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวม

ล่าสุดได้ประกาศแผนงาน 5 ปี (2565-2569) เดินหน้ากลยุทธ์ CRC Retailligence ในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยการสร้างนวัตกรรมการค้าแห่งยุคอนาคต ด้วยการเตรียมงบประมาณการลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท ในการขยายการเติบโตทุกกลุ่มธุรกิจทั้งฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ และสร้างธุรกิจใหม่ ๆ แบ่งออกเป็นการลงทุนในส่วนของการขยายสาขา ฟิซิคัลสโตร์ต่าง ๆ 75% ขณะที่อีก 25% จะเป็นการลงทุนในส่วนของเทคโนโลยี โดยหัวหอกหลักที่จะพาเซ็นทรัลรีเทลบรรลุเป้าหมายที่วางไว้

ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ 1.Reinvent Next-Gen Omni Retail ยกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชนเนลผ่านการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลใหม่ ๆ ทั้งฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี 2.Accelerate Core Leadership เร่งการขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักของเซ็นทรัล รีเทล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

3.Build New Growth Pillars เดินหน้าสร้างธุรกิจใหม่ โดยเริ่มจากกลุ่ม wellness รวมถึงเซ็กเมนต์อื่น ๆ ที่เป็นไปตามเทรนด์ของโลก และความต้องการของผู้บริโภค 4.Drive Partnership, Acquisition and Spin Off ขยายธุรกิจภายใต้แนวคิด Inclusive Growth สร้างความสำเร็จร่วมกันกับพาร์ตเนอร์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

“เรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลมองว่าเป็นเรื่องของเทรนด์โลกที่หนีไม่พ้น แต่อย่างไรก็ดี ต้องมีการบาลานซ์เทคโนโลยีและการใช้ชีวิต โดยในเรื่องของสเตเบิ้ลคอยน์ (Stablecoin) ซึ่งหากไม่ขัดกับมาตรการของภาครัฐ บริษัทก็พร้อมสนับสนุน แต่หากขัดต่อข้อกฎหมาย บริษัทก็จะไม่ดำเนินงานต่อ โดยปัจจุบันซีอาร์ซีก็มีการพัฒนา C-Coin ใช้ในองค์กรอยู่แล้ว” นายญนน์กล่าวและว่า

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3 ปี 2564 ที่ผ่านมา ซีอาร์ซีมีรายได้ทั้งสิ้น 136,889 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากในประเทศ 70% ประเทศอิตาลี 25% และเวียดนาม 5% โดยเป้าผลประกอบการในปี 2569 บริษัทจะเติบโตในทุกมิติ ด้านรายได้เติบโต 2.5 เท่า โดยวางเป้าหมายสู่ค้าปลีกแห่งอนาคต ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ในภูมิภาคเอเชีย