“แอลจี” มั่นใจตลาดแอร์ฟื้น ทุ่ม 250 ล้าน ปลุกยอดชิงโพซิชั่นแอร์สุขภาพ

ยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเชื่อว่าดีมานด์แอร์ที่อั้นมา 2 ปีจะระเบิดออกในปีนี้ เป็นโอกาสที่จะส่งสินค้าเข้ารองรับเพื่อสร้างยอดขาย

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 แอลจี สตาร์ทเครื่องปลุกตลาดแอร์ปี 65 ตั้งเป้าลุยหนักทั้งแอร์บ้าน-พาณิชย์ ชูฟังก์ชั่นฆ่าเชื้อ-ฟอกอากาศ-ดีไซน์หรูเป็นหัวหอกจูงใจลูกค้า ก่อนขยายไลน์อัพจาก 23 เป็น 29 รุ่น พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ “เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ” ช่วยสร้างรับรู้ หวังชิงสร้างยอดขายช่วงตลาดฟื้นตัวหลังโควิด-19 คลี่คลาย ด้วยเป้าเติบโต 35% แตะ 3,200 ล้านบาท 

นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายว่า ตลาดแอร์ปี 2565 นี้มีโอกาสกลับมาเติบโตอย่างน้อย 10% ทำให้มูลค่าเพิ่มเป็นประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท หลังหดตัวต่อเนื่อง 2 ปี 

ดีมานด์อั้นมา 2 ปี

มีปัจจัยบวกจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้ผู้บริโภคกลับมาจับจ่ายอีกครั้ง ขณะเดียวกันการทำงานที่บ้านทำให้มีความต้องการติดแอร์เพิ่มในห้องต่างๆ รวมถึงอัพเกรดแอร์ให้ประหยัดไฟมากขึ้นเพื่อชดเชยชั่วโมงใช้งานที่นานขึ้น อีกทั้งยังมีดีมานด์จากกลุ่มที่มีแอร์เก่าอายุมากที่ต้องการเปลี่ยน แต่ไม่สามารถทำได้เพราะการระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับองค์กรธุรกิจและผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ที่คาดว่าจะเริ่มกลับมาลงทุนอีกครั้งหลังเริ่มเปิดประเทศ โดยจะสามารถเห็นได้ชัดในช่วงต้นไตรมาส 3 โดยเทรนด์หลักของตลาดจะยังคงเป็นฟังก์ชั่นสุขภาพอย่างการฆ่าเชื้อโรค และกรองฝุ่น รวมถึงการประหยัดพลังงาน และความทนทาน

“การเติบโตของยอดขายของบริษัทที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนปลายปี 2564 จนถึงเดือนมกราคม 2565 ทำให้มั่นใจว่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและแอร์ยังมีดีมานด์ที่อั้นอยู่แน่นอน”

ชิงโพซิชั่นแอร์สุขภาพ 

เพื่อสร้างการเติบโตในช่วงที่ตลาดกำลังฟื้นตัว บริษัทจึงเดินหน้าทำตลาดทั้งแอร์บ้านและแอร์พาณิชย์แบบเต็มที่ โดยเน้นจุดขายด้านสุขภาพอย่าง ฆ่าเชื่อด้วยรังสียูวี กรองฝุ่นและฟอกอากาศ เสริมกับการประหยัดพลังงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ เพื่อย้ำโพซิชั่น “แอร์เพื่อสุขภาพ” ซึ่งเป็นจุดที่ยังไม่มีคู่แข่งรายอื่นโฟกัสอย่างชัดเจน ด้วยจุดเด่นด้านฟังก์ชั่นสุขภาพ

โดยเปิดตัวแอร์บ้านใหม่อีก 6 รุ่น ทำให้มีสินค้ารวม 29 รุ่น ขนาดตั้งแต่ 9,000 – 30,000 บีทียู ราคาเริ่มต้น 17,990– 60,990 บาท ครอบคลุมทั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงกลุ่มที่เน้นดีไซน์-สีสัน มีไฮไลท์เป็น LG ART COOL (รุ่น IW) รุ่นท็อปเน้นดีไซน์หรูหราด้วยฝาหน้ากระจกเงาและตัวเครื่องสีดำ หรือดีไซน์สีเขียวแมทท์แบบมินิมอล พร้อมระบบกำจัดเชื้อโรค-สารก่อภูมิแพ้ ฟิลเตอร์กรองฝุ่นและระบบไล่ความชื้นอัตโนมัติ  เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านไลฟ์สไตล์และสุขภาพ 

เช่นเดียวกับแอร์พาณิชย์ ที่เปิดตัวหลายโมเดลทั้งแบบฝังฝ้า แขวนใต้ฝ้าและตู้ตั้งพื้น เพื่อตอบโจทย์หลากหลายธุรกิจทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรมและอื่นๆ มีไฮไลท์เป็นรุ่นฝังฝ้าพร้อมกระจายลมรอบทิศทาง ซึ่งสามารถติดอุปกรณ์เสริมเพิ่มฟังก์ชั่นการฟอกอากาศที่สามารถกำจัดฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กถึง 1.0 ไมครอน (PM1.0)

ทุ่มงบ 250 ล้าน ทำตลาดครบวงจร

พร้อมกันนี้ได้ทุ่มงบฯ การตลาด 250 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้แบบครบวงจรทั่วประเทศ โดยมีแบรนด์ แอมบาสเดอร์ “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ” เป็นแกนกลางสร้างการรับรู้ทั้งฟังก์ชั่นสุขภาพและสมาร์ทอย่างการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยผ่านอุปกรณ์เสริม Google Assistant พร้อมสั่งงานฟังก์ชั่นอื่นๆได้ผ่านแอปพลิเคชัน LG ThinQTM และฟังก์ชั่น Smart Diagnosis ที่ช่วยวิเคราะห์ปัญหาในการใช้งานเบื้องต้น

ขณะเดียวกันจะเดินหน้าขยายช่องทางจำหน่ายแอร์ ด้วยการเพิ่มจำนวนร้านค้าดีลเลอร์จาก 900 รายทั่วประเทศในปัจจุบันเป็น 1.2 พันรายภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงเริ่มนำแอร์พาณิชย์เข้าไปจัดแสดงและจำหน่ายในร้านดีลเลอร์ที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสขายกับกลุ่มลูกค้าครัวเรือนอีกด้วย 

ทั้งนี้ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจีฯ ย้ำว่า ด้วยกลยุทธ์ด้านการตลาดและไลน์อีพสินค้าใหม่นี้จะช่วยให้บริษัทสามารถมียอดขายแอร์ภายในบ้านไม่น้อยกว่า 3.2 พันล้านบาท หรือเติบโต 35% จากปีที่แล้ว ซึ่งยอดขายทรงตัวที่ประมาณ 2.37 พันล้านบาท