นอกจากปันผลแล้ว VGI ยังเตรียมออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนและใบสำคัญแสดงสิทธิ เพื่อเสริมสภาพคล่องรองรับการลงทุนในอนาคต
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) เผยงบไตรมาสที่ 3 ปี 2564/65 มีรายได้เพิ่มขึ้น 110% YoY เป็น 1,429 ล้านบาท พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผล 0.02 บาทต่อหุ้นในวันที่ 14 มีนาคม 2565 นี้ ก่อนออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ (VGI-W3) เพื่อชำระหนี้เงินกู้ เสริมสภาพคล่อง และการลงทุนในธุรกิจใหม่ในอนาคต
นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) อธิบายว่า การเติบโตนี้ เป็นผลจากรายได้ของธุรกิจต่าง ๆ ในพอร์ต ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน ที่มีการเติบโตแบบไตรมาสต่อไตรมาสอยู่ที่ 48% เป็น 436 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงสัญญาณการฟื้นตัว แม้หากเทียบแบบ YoY จะยังลดลง 5% ก็ตาม
เช่นเดียวกับของธุรกิจบริการด้านดิจิทัล 312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% YoY ส่วนใหญ่มาจากค่าคอมมิชชั่นประกันภัยและการสร้างโอกาสในการขาย รวมถึงมีรายได้จากธุรกิจการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 681 ล้านบาท
ด้านธุรกิจบริการชำระเงิน บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการให้บริการด้านดิจิทัลและออนไลน์ผ่านกลุ่มแรบบิทอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน แรบบิท ไลน์ เพย์ มีผู้ใช้งานมากกว่า 9.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.1% และมีจำนวนบัตรแรบบิท 14.8 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบปีต่อปี
สำหรับธุรกิจการจัดจำหน่าย มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเปิดตัวแอปพลิเคชั่นนำร่อง Rabbit Selection ซึ่งบริหารงานโดย Fanslink
สำหรับสถานการณ์ธุรกิจในปีนี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ บริษัท วีจีไอฯ คาดว่า การแพร่ของเชื้อโรค COVID-19 สายพันธุ์ Omicron จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยน้อยกว่าการระบาดครั้งก่อน เนื่องจาก Omicron มีอาการของโรคที่รุนแรงน้อยกว่าเดิม ผนวกกับการรับมือของภาครัฐและภาคประชาชนดีขึ้น ตลอดจนความคืบหน้าของกระบวนการการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ประชาชนเริ่มกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติ ในขณะเดียวกันรัฐบาลกำลังมีแผนที่จะประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคระบาดเฉพาะถิ่นภายในสิ้นปีนี้ จึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 3.4% ในปี 2565
ด้วยเหตุนี้ บอร์ด VGI จึงมีมติอนุมัติให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ควบคู่กับการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ (VGI-W3) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยการเพิ่มทุนในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ เสริมสภาพคล่องที่มั่นคงด้านฐานะการเงินของบริษัทฯ และเพื่อการลงทุนในธุรกิจใหม่ในอนาคต
รวมถึงอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทครึ่งปีแรกให้แก่ผู้ถือหุ้นรวมเป็นเงิน 172 ล้านบาท ในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อตามบัญชีปิดเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยจะทำการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 14 มีนาคม 2565