โลตัสเปิดตัว Lotus’s SMART App ชูโปรแกรม “My Lotus’s” แทน “คลับการ์ด”

โลตัส เปิดตัว “Lotus’s SMART App” รวมทั้งโลตัสมาให้ครบจบในแอปเดียว รับเทรนด์ค้าปลีกยุคดิจิทัล ชูประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ SMART ไร้รอยต่อ ดึงจุดแข็ง 2,300 สาขาทั่วไทยกระจายการจัดส่ง พร้อมชู “My Lotus’s” ดิจิทัลโปรแกรมสะสมโลตัสคอยน์ แทนที่ “คลับการ์ด”

วันที่ 22 มีนาคม 2565 นางวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส เปิดเผยว่า “เพื่อส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ SMART และไร้รอยต่อ (seamless) ผ่านช่องทางออมนิแชนแนลของทั้งสาขาและออนไลน์ โลตัส ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART App ขึ้น เพื่อเป็น one-stop destination ที่รวบรวมทั้งรีวอร์ดโปรแกรมและออนไลน์ช้อปปิ้งอยู่ในแอปพลิเคชันเดียว เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานของลูกค้าผ่านฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย โดย Lotus’s SMART App เข้ามาแทนที่แอปพลิเคชันทั้งหมดที่เราเคยมี

โดยนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และประมวลผล big data เพื่อให้สามารถสร้างคูปองส่วนลด โปรโมชั่น สิทธิพิเศษ เสนอแนะสินค้า ที่ตรงใจลูกค้าแต่ละคน นอกจากนั้นยังได้เปิดตัวรีวอร์ดโปรแกรมใหม่ My Lotus’s (มายโลตัส) แทนที่โปรแกรมเดิม โดยปรับให้ประสบการณ์การใช้งาน

ทั้งการสะสมและการแลก ง่ายขึ้น ทันใจขึ้น คุ้มขึ้น และตรงใจขึ้นกว่าเดิม โดยโปรแกรม My Lotus’s จะมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าผ่านแอปพลิเคชันและ 100% paperless ไม่มีการส่งสเตทเม้นท์และคูปองไปยังบ้านของลูกค้า ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนั้นสำหรับลูกค้าที่ดาวน์โหลด Lotus’s SMART App ได้ร่วมมือกับศิลปิน NFT ในการสร้างชิ้นงานศิลปะที่เป็นทรัพย์สินดิจิทัล เพื่อแจกให้ลูกค้าฟรี โดยลูกค้าสามารถเริ่มเก็บ ticket บนแอปฯ ตั้งแต่ 1-30 เมษายน นี้ เพื่อแลก NFT Art

สำหรับจุดเด่นของ My Lotus’s คือทุกการใช้จ่าย 100 บาท สมาชิกจะได้รับ 1 โลตัสคอยน์ ซึ่ง 1 โลตัสคอยน์ = 1 บาท สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ทันที ทั้งในสาขาและในแอปพลิเคชัน ไม่ต้องรอการส่งสเตทเม้นท์รายเดือนและคูปองอีกต่อไป นอกจากนี้ในทุกเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง สมาชิกจะสามารถแลก 50 โลตัสคอยน์ เป็นคูปองเงินสด 100 บาท เพิ่มความคุ้มค่า 2 เท่า และนำคูปองเงินสด ส่วนลด ดีลรู้ใจกว่า 200 รายการ จากการประมวลผลของ AI ตรงใจลูกค้าแต่ละราย

นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กลุ่มโลตัสส์ เอเชีย-แปซิฟิก ยกเว้นประเทศจีน กล่าวว่า “หนึ่งในเป้าหมายของโลตัสคือการขยายธุรกิจ O2O เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมการช้อปปิ้งของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดดมาอย่างต่อเนื่อง การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็เป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์ในปี 2021 โตขึ้นกว่า 30% ทั้งจากความจำเป็นจากการปิดให้บริการของศูนย์การค้าและความกังวลของประชาชนในเรื่องสุขภาพ

ในส่วนของธุรกิจออนไลน์ของโลตัสในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมาเติบโตกว่า 250% จากปัจจัยข้างต้น ประกอบกับการขยายช่องทางและเครือข่ายการจัดส่งสินค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเป้าหมายใน 5 ปีข้างหน้า คือการเพิ่มสัดส่วนยอดขายออนไลน์ต่อธุรกิจโลตัสโดยรวม จากเลขหลักเดียว (single digit) เป็นเลขสองหลัก (double digit) ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตนี้คือ Lotus’s SMART App ที่ได้มีการพัฒนาออนไลน์ช้อปปิ้งให้มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายกว่าเดิมในการใช้งาน

“จุดแข็งของธุรกิจออฟไลน์ของเราคือการมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ เข้ามาช่วยเติมเต็มธุรกิจออนไลน์ ในการให้สาขาทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ตและโลตัส โก เฟรช รวมกว่า 2,300 สาขา เป็นจุดกระจายสินค้า ส่งสินค้าตรงถึงมือลูกค้าได้รวดเร็ว ด้วยระยะทางที่ใกล้บ้านลูกค้ามากขึ้น เรามีการจับมือกับพันธมิตรแพลทฟอร์ม delivery ต่างๆ และฟลีทขนส่งของเราเอง ทำให้สามารถจัดส่งในวันเดียวกันและจัดส่งในวันถัดไป

นอกจากนี้ Lotus’s SMART App ยังมีสินค้าที่หลากหลาย ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง สินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งในอนาคตยังสามารถสั่งอาหารจากร้านในพื่นที่ศูนย์การค้าโลตัส ผ่านฟังค์ชั่น Lotus’s Eat ได้อีกด้วย

ขณะที่ระบบออนไลน์ช้อปปิ้งบน Lotus’s SMART App มีสินค้ากว่า 30,000 รายการ ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ และยังสามารถอัพเดทสต็อคสินค้าแบบ real-time ติดตามสถานะการจัดส่งสินค้าได้ และยังมีการจัดส่งหลายรูปแบบ ทั้ง ส่งภายในวันเดียวกัน และส่งวันรุ่งขึ้น โดยค่าจัดส่งสมเหตุสมผล เนื่องจากจัดส่งจากสาขาที่ตั้งอยู่ใกล้สถานที่จัดส่งของลูกค้าที่สุด เป็นต้น