‘โออิชิ’ เด้งรับเทรนด์สุขภาพ งัด ‘น้ำตาล 0%’ เขย่าชาเขียว

โออิชิ

ตลาดชาเขียว 1.2 หมื่นล้าน ส่งสัญญาณบวกรับคลายล็อกประเทศ “โออิชิ” ส่งเรือธงยอดนิยม “โออิชิ กรีนที ฮันนี่เลมอน” ต่อยอดรับเทรนด์สุขภาพ แจ้งเกิดเซ็กเมนต์ใหม่ “โออิชิ กรีนที ฮันนี่เลมอน น้ำตาล 0%” เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ

พร้อมทุ่ม 70 ล้าน ดึง “ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง” พรีเซ็นเตอร์เจาะคนรุ่นใหม่ พร้อมปล่อยขนาด 350 มล. ราคา 15 บาท บุกเทรดิชั่นนอลเทรดสร้างการเข้าถึง ย้ำแชมป์ผู้นำด้วยส่วนแบ่งการตลาด 45%

นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มแบรนด์โออิชิ เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น

ทำให้ชาพร้อมดื่มซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้วเป็นตัวเลือกหนึ่งของคนไทย และถือเป็นสัญญาณที่ดีของตลาดชาพร้อมดื่ม พิสูจน์ได้จากการเติบโตสูงถึง 12% สวนกระแสตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ติดลบ 3.3% โดยปัจจัยหลักในการดื่มชาพร้อมดื่มของผู้บริโภคประกอบด้วย

1.รสชาติอร่อย สดชื่น ดื่มได้เป็นประจำ 2.ไม่เป็นโทษกับสุขภาพ และ 3.มีคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ สอดคล้องกับความกังวลเรื่องน้ำตาลของผู้บริโภค นวัตกรรมน้ำตาล 0% จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ดังกล่าว ที่มาพร้อมความท้าทายคือการทำให้ได้รสชาติอร่อยโดยไม่มีน้ำตาล เพื่อให้ดื่มได้อร่อย สดชื่นแบบไร้กังวล

สอดคล้องกับข้อมูลจาก AC Nielsen ระบุว่า ภาพรวมตลาดชาเขียวช่วงต้นปีที่ผ่านมา (เมษายน 2564-มีนาคม 2565) พบว่าตลาดชาพร้อมดื่มมีมูลค่า 11,814 ล้านบาท หรือประมาณ 5% ของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มีอัตราการเติบโตสูงถึง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ติดลบ 3.3%

แนวโน้มตลาดชาเขียวจากนี้ยังมีสัญญาณบวกอย่างต่อเนื่อง จากกระแสสุขภาพที่มาแรงทำให้กลุ่มชาเขียวได้รับความนิยม ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาตลาดชาเขียวเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก

หลังช่วงที่การระบาดของโควิดกำลังซื้อลดทำให้ตลาดค่อนข้างได้รับผลกระทบ ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ขณะที่เรื่องเศรษฐกิจเป็นตัวหลักที่ส่งผลกระทบ แต่จากการผ่อนปรนนโยบายของภาครัฐทำให้ตลาดมีสัญญาณบวกอีกครั้ง

นางเจษฎากรระบุด้วยว่า ล่าสุดเพื่อเป็นการรองรับเทรนด์สุขภาพ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ “โออิชิ กรีนที ฮันนี่เลมอน น้ำตาล 0%” เซ็กเมนต์ใหม่ชาเขียวพร้อมดื่มน้ำตาล 0% ภายใต้แนวคิด “ดีต่อสุขภาพ รสชาติอร่อยแต่ไร้น้ำตาล” ประเดิมด้วย “รสฮันนี่ เลมอน” ที่เป็นรสที่ขายดีที่สุดของโออิชิและตลาดชาพร้อมดื่ม

เพื่อต้อนรับช่วงซัมเมอร์ ภายใต้งบประมาณ 70 ล้านบาท สื่อสารการตลาดอย่างครบวงจร โดยมี “ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง” นักแสดงสาว ตัวแทนคนรุ่นใหม่สุขภาพดีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และแจกให้ทดลองชิม พร้อมจัดกิจกรรมการตลาดผ่านกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่น 15-19 ปี และกลุ่มเพิ่งเริ่มทำงานกระตุ้นการบริโภค

พร้อมกันนี้ยังให้ความสำคัญกับการชูกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มปริมาณการบริโภคกับกลุ่มวัยทีน ด้วยกิจกรรมและแคมเปญทางการตลาดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบของคนรุ่นใหม่นอกจากนี้ยัง

จับมือพันธมิตรด้านต่าง ๆ สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ในการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม รวมทั้งแอปพลิเคชั่น “โออิชิ คลับ” ที่เน้นความแปลกใหม่และเร็วทันเทรนด์ความนิยมในแต่ละช่วงเวลา สร้างความน่าสนใจให้กับกิจกรรมและโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“สินค้าใหม่ของเรา น้ำตาล 0% ที่ออกมาจึงเพื่อตอบโจทย์พื้นฐานความต้องการของลูกค้าด้านสุขภาพ ขณะที่รสชาติคือสิ่งที่คนต้องการ จึงเลือกเปิดตัวรสชาตินี้มาก่อนโดยมีการเปิดตัวขนาด 350 มล. ราคา 15 บาท เน้นขยายไปในช่องทางเทรดิชั่นนอลเทรดเป็นหลัก

เพื่อกระตุ้นกลุ่มลูกค้าที่ดื่มน้อยลง ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือสร้างการเข้าถึงผ่านไซซ์และแพ็กเกจจิ้ง และรสชาติที่เหมือนกับฮันนี่เลมอนให้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้ากลับมา เพื่อให้เกิดการทดลองให้มากที่สุด”

ปัจจุบันพอร์ตผลิตภัณฑ์ชาพร้อมดื่มโออิชิ กรีนที ประกอบด้วย 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่ม Regular Tea มีสัดส่วน 65% กลุ่ม Fruit Tea มีสัดส่วน 5% กลุ่ม Nata De Coco (วุ้นมะพร้าว) มีสัดส่วน 16% กลุ่ม Sparkling Tea มีสัดส่วน 12% และกลุ่ม Premium Tea มีสัดส่วน 2% สัดส่วนในประเทศ 70% ส่งออก 30%

โดยในตลาดต่างประเทศจะแบ่งการทำตลาดแบบเทรดดิ้งกับประเทศในยุโรป และกลุ่มประเทศที่เป็นยุทธศาสตร์หลัก กัมพูชา ลาว เมียนมา มาเลเซีย ที่บริษัทที่เข้าไปดูแล จัดสรรงบประมาณ และทำการตลาด

ปัจจุบันโออิชิครองส่วนแบ่งการตลาด 45% เป็นผู้นำในตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ขณะที่ผู้เล่นเบอร์ 2 มีส่วนแบ่งการตลาดราว 22% ที่เหลือคือผู้เล่นอื่น ๆ ผู้เล่นในตลาดเหลืออยู่ราว 5-6 แบรนด์ที่แอ็กทีฟในตลาด ซึ่งการเปิดตัวเซ็กเมนต์ใหม่ดังกล่าวจะผลักดันยอดขายได้มากขึ้น

“ด้วยตัวเลขการเติบโตของตลาดชาพร้อมดื่มที่สูงที่สุดในตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เชื่อได้ว่าแบรนด์ต่าง ๆ ในตลาดชาพร้อมดื่มจะแข่งขันอย่างรุนแรง โดยทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ กิจกรรมการตลาดที่โดนใจผู้บริโภค และการแข่งขันด้านราคา”