“โออิชิ” เปิดตัวแบรนด์ “ชาบู บาย โออิชิ” เสริมพอร์ตธุรกิจกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น ชูจุดขายวัตถุดิบพรีเมี่ยม ราคาเข้าถึงง่ายดึงกลุ่มคนรักชาบู ประเดิม 2 สาขาแรก แฟชั่นไอส์แลนด์-เซ็นทรัลพระราม 9
วันที่ 20 มิถุนายน 2565 นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือโออิชิ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับนโยบายและมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้ผู้คนมีแนวโน้มที่ผ่อนคลายความกังวล และทยอยกลับมาใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้านมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้บริโภคได้ให้ความสำคัญกับการดูแลใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยกลุ่มอาหารญี่ปุ่นอย่าง ชาบู ชาบู และสุกี้ยากี้ ค่อนข้างได้รับความนิยมต่อเนื่อง
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
จากโอกาสดังกล่าว จึงเปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ใหม่ ภายใต้ชื่อ “ชาบู บาย โออิชิ” (SHABU By OISHI) ชูจุดเด่นด้านคุณภาพของวัตถุดิบ ตามตำรับชาบู ชาบู แบบญี่ปุ่นหม้อเดี่ยว โดยให้บริการแบบอะลาคาร์ท ในราคาที่เข้าถึงได้เริ่มต้น 109 บาท สำหรับวัตถุดิบมีหลากหลาย ประกอบด้วย เนื้อวากิวญี่ปุ่น ระดับ A4, เนื้อวากิวออสเตรเลีย, เนื้อออสเตรเลีย เนื้อยูเอส, เนื้อหมูคุโรบูตะ, เนื้อหมูเบคอน ฯลฯ สไลด์สดจานต่อจาน และน้ำซุปให้เลือก 4 รสชาติ ได้แก่ น้ำซุปชาบู ชาบู, น้ำซุปสุกี้ยากี้, น้ำซุปมิโซะ และน้ำซุปดาชิ
นอกจากนี้ “ชาบู บาย โออิชิ” ได้สร้างความแตกต่างผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาสอดแทรกอยู่ในการบริการ ด้วยระบบส่งอาหารด่วนอัตโนมัติหรือสายพานรถไฟ รวดเร็ว ลดสัมผัส ส่งตรงถึงโต๊ะ รวมทั้งระบบการสั่งอาหารด้วยตัวเองผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยโทรศัพท์มือถือส่วนตัว และระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัส โดยระยะแรกเปิดให้บริการ 2 สาขา ได้แก่ แฟชั่นไอส์แลนด์ (รามอินทรา) และเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ โออิชิ ได้เปิดให้บริการร้านอาหารญี่ปุ่นไฮบริด โออิชิ บิซโทโระ (OISHI BIZTORO) เพื่อสร้างโอกาสเติบโต และปรับรูปแบบธุรกิจให้มีความหลากหลาย ครอบคลุม เพื่อเติมช่องว่างตลาดและความต้องการของผู้บริโภคในทุกสถานการณ์
