อีลอน มัสก์ บอก Tesla จะลดราคาต่อไป แม้กำไรไตรมาสล่าสุดลดลง

อีลอน มัสก์ Tesla
REUTERS/ Jonathan Ernst/ File Photo

เทสลา (Tesla) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 อัตรากำไรลดลง อีลอน มัสก์ บอกว่าจะยังลดราคารถยนต์ไฟฟ้าต่อไป เพราะให้ความสำคัญกับการผลักดันยอดขายก่อนเรื่องกำไร 

ส่งสัญญาณว่าเทสลายังคงจะลดราคาเพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อต่อไป แม้ว่าจะต้องเสียอัตรากำไรซึ่งเทสลาเป็นผู้นำอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ก็ตาม โดยเขามีเหตุผลที่ดีในการลดราคาว่า เทสลาสามารถทนทานต่อการลดราคาได้ ทำให้ได้เปรียบคู่แข่ง

เทสลา (Tesla) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 ว่าบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น 19.3% ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นของเทสลาจะอยู่ที่ 22.4% 

สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 ว่า เทสลา (Tesla) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 ว่า บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น 19.3% ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นของเทสลาจะอยู่ที่ 22.4% 

เทสลายังไม่ได้รายงานอัตรากำไรขั้นต้นเฉพาะของธุรกิจยานยนต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่นักลงทุนจับตาดูอย่างใกล้ชิด อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของบริษัทเทสลากล่าวว่า เศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้ยากต่อการคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจยานยนต์ 

Bloomberg รายงานว่า อีลอน มัสก์ ส่งสัญญาณว่าเทสลายังคงจะลดราคาเพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อต่อไป แม้ว่าจะต้องเสียอัตรากำไรซึ่งเทสลาเป็นผู้นำอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ก็ตาม โดยเขามีเหตุผลที่ดีในการลดราคาว่า เทสลามีศักยภาพทางการเงินที่รองรับการลดราคาได้ ทำให้ได้เปรียบคู่แข่ง แต่นักลงทุนไม่มั่นใจ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทลดลงทันทีที่ความคิดเห็นของมัสก์ถูกเผยแพร่ออกไป

“เรามองว่าการผลักดันให้มีปริมาณมากขึ้นและกองเรือ (ขนส่งสินค้า) ที่ใหญ่ขึ้น เป็นทางเลือกที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับการขายในปริมาณที่น้อยลงและอัตรากำไรที่สูงขึ้น” มัสก์บอกกับนักวิเคราะห์  

การลดราคาของเทสลาเป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจ ตอนนี้ในสหรัฐอเมริกา ราคาขายเริ่มต้นของ Tesla Model 3 ลดลงต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,360,000 บาท ตัดลดราคาลง 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 238,000 บาท 

การลดราคากัดกินรายได้และผลประกอบการโดยรวมของเทสลา ในไตรมาสแรกของปีนี้เทสลามีอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (operating margin) 11.4% ลดลงจาก 16% ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว (YOY) และน้อยกว่าอัตรา 19.2% ของปี 2565 ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) ของธุรกิจยานยนต์ ซึ่งไม่ได้เปิดเผย เทสลาบอกว่าอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้

แม้ว่าอัตรากำไรจะลดลง แต่อัตรากำไรของ Tesla ก็ยังสูงกว่าอัตรากำไรของผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น เทียบกับในปี 2565 General Motors Co. มีอัตรากำไรจากการดำเนินงาน 6.6% ขณะที่ Ford Motor Co. มีอัตรากำไรเพียง 4% 

รายรับของเทสลาเพิ่มขึ้น 24% เป็น 23,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg ประมาณการไว้ว่าจะอยู่ที่ 23,350 ล้านดอลลาร์ รายได้จากการขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ผู้ผลิตรถยนต์เจ้าอื่น (regulatory credits) อยู่ที่ 521 ล้านดอลลาร์สหรัฐ