
คอลัมน์ : เทสต์คาร์ ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง
รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) รุ่นแรกที่ประกอบจากโรงงานธนบุรีประกอบยนต์ ของค่ายดาวสามเเฉก ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
สำหรับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS 500 รุ่นประกอบในประเทศ ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่สองของค่ายนี้ที่แนะนำออกสู่ตลาดบ้านเราต่อจาก EQS 450+ ที่นำเข้ามาจำหน่าย
- เปิดชื่อ 10 อันดับโรงเรียนดัง กทม. นักเรียนแห่สมัครสอบเข้า ม.1 สูงสุด
- มหาดไทยออกระเบียบใหม่ ตั้งคณะกรรมการชุมชน รับค่าตอบแทนรายเดือน
- ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เสียชีวิต อายุ 55 ปี หลังซ้อมแข่งรถที่บุรีรัมย์
ไม่รอช้า “ทีมงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ไทยแลนด์” จัดทริปทดสอบรถยนต์ไฟฟ้า 100% คันนี้ใน 4 เส้นทาง 4 ภูมิภาคของประเทศไทย
“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสได้ร่วมขบวนทดสอบกับเส้นทางสุดท้ายสายอีสาน จากเมืองอุดรธานี มุ่งสู่เมืองอุบลราชธานี
หากใครที่คุ้นชินกับรูปร่างหน้าตาของเจ้า EQS 450+ นั้น ถือว่ามองภายนอกรถทั้งสองรุ่นนี้เหมือนกันเป๊ะ
ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ชุดตกแต่ง AMG รอบคัน
ส่วนล้ออัลลอย multi spoke 21 นิ้ว มีซี่ล้อละเอียด ถูกจัดวางได้อย่างลงตัว และสวยงาม
ด้านท้าย EQS 500 ทรงสไตล์ซาลูน ไฟท้าย 3D helix design ไฟส่องสว่างใต้กระจกมองข้างตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz รถคันนี้มีระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ
ช่วยได้เยอะในเรื่องของผู้ที่มีข้อจำกัดในเรื่องความสูง สามารถกดสั่งการได้ที่ กุญแจรีโมต
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้น แม้จะถูกออกแบบมาให้เป็นรถสไตล์ซาลูน แต่ด้วย หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ บวกกับแผงหน้าจอแบบ MBUX Hyperscreen ขนาดใหญ่ ช่วยทำให้ในตำแหน่งด้านหน้ารถคันนี้คืออัครสถานชั้นดี
แต่เมื่อเข้าไปนั่งที่เบาะด้านหลังนั้น ถามว่าคับแคบหรือไม่ ส่วนตัวถือว่าไม่คับแคบเพียงแต่ด้วยการดีไซน์ท้ายลาดลงทำให้เราอาจจะมองว่าเเคบ
เจ้า EQS 500 คันนี้มีระบบ face scan จากกล้อง 3D camera ที่ช่วยในฟังก์ชั่นความปลอดภัย และจดจำโปรไฟล์ผู้ขับขี่ได้อีกด้วย ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยมีติดตั้งมาให้เต็มคัน
โดยรวม ๆ เจ้ารถคันนี้กับเจ้า EQS 450+ ไม่ได้แตกต่างกัน
ส่วนสิ่งที่แตกต่างออกไปสำหรับเจ้า EQS 500 รุ่นประกอบในประเทศคันนี้ ไม่ใช่เเค่ “ราคา” ค่าตัวที่ถูกลงไป เหลือเพียง 7.9 ล้านบาทแล้ว มีส่วนต่างลงประมาณ 6.7 แสนบาท ลดลงจากรุ่น EQS 450+ AMG และ EQS 450+ Edition
ในส่วนของพละกำลังความแรงของเจ้า EQS 500 คันนี้ยังถูกอัพเกรดการใส่มอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มเป็น 2 ตัว ให้กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 449 แรงม้า/330 กิโลวัตต์ เพิ่มขึ้นจากรุ่น 450+ 116 แรงม้า
ส่วนความเร็วรอบมอเตอร์ไฟฟ้า เพลาหน้า 3,848-12,126 รอบต่อนาที, ความเร็วรอบมอเตอร์ไฟฟ้า เพลาหลัง 13,444 รอบต่อนาที, แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 828 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้นมา 263 นิวตันเมตร)
ขณะที่อัตราเร่ง 0-100 ทำได้ใน 4.8 วินาที จากรุ่น 450+ ทำได้ที่ 6.2 วินาที
ส่วนแบตเตอรี่ ความจุ 108.4 kWh ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง
จากก่อนหน้าที่เคยสัมผัสกับเจ้า EQS 450 ก็ว่าจี๊ดแล้ว แต่คันนี้จี๊ดกว่า…
นั่งในตำแหน่งด้านหลังพวงมาลัย ทัศนวิสัยค่อนข้างดี แถมรถ EQS 500 คันนี้ยังให้ความคล่องตัวดี
อัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้านั้นไม่ต้องรอมอเตอร์ไฟฟ้า ตอบสนองได้ทันใจ
ตลอดเส้นทางเกือบ 500 กิโลเมตร ปรากฏว่าจากความเร็วเฉลี่ย ที่ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บางจังหวะมีเกินไปบ้าง
ขับแบบไม่ได้คำนึงถึงพลังงานในแบตเตอรี่เท่าไรนัก เพราะต้องการทดสอบว่าแบตเตอรี่ที่อยู่ในปริมาณกว่า 90% เมื่อตอนรับรถมาจนถึงสิ้นสุดระยะทางจะเป็นอย่างไร
เบ็ดเสร็จเหลือจำนวนเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่แค่ 2% เท่านั้น ส่วนระยะทางที่รถคันนี้วิ่งได้อยู่อีกราว 10-15 กิโลเมตร ถือว่ารับได้
เพียงแค่วางแผนการใช้งานก็ทำให้เราใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้สนุกขึ้น แต่จากระยะทางที่เมอร์เซเดสเคลมไว้ 702 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งนั้น เพียงพอสำหรับการขับไปทำงานตลอด 5 วัน ในระยะทางต่อวันไม่เกิน 100 กิโลเมตรได้อย่างเหลือเฟือ และจะออกต่างจังหวัดในรัศมีไม่เกิน 300 กม. ขับไปกลับได้สบาย ๆ
ยิ่งเมื่อเทียบกับสิ่งที่ต้องจ่ายไปในราคา 7.9 ล้านบาท สำหรับรถ EQS คันนี้ ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจ สำหรับผู้บริหารยุคใหม่ที่ขับรถเอง หรือเจ้าของรถที่ขับรถเอง บอกเลยว่าขับสนุก และยังช่วยปกป้องโลกใบนี้ด้วย
ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไทยแลนด์ฝากกระซิบมาว่า EQS 500 รุ่นประกอบในประเทศคันนี้มีรถพร้อมส่งแล้ว…