เปิดข้อมูล 10 จังหวัดที่มีรถ EV สูงสุด สถานีชาร์จพอมั้ย ? 

รถยนต์อีวี

เปิดข้อมูล 10 จังหวัดที่มียอดจดทะเบียนรถอีวีสูงสุดในปี 2566 ที่ผ่านมา จากยอดรวม 75,690 คัน กินส่วนแบ่ง 12% ของตลาดรถยนต์โดยรวม เผย “กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-ชลบุรี” TOP 3  ส่วนจังหวัดที่มียอดจดทะเบียนน้อยที่สุดคือ แม่ฮ่องสอน  1 คันเท่านั้น  ขณะที่ผู้ประกอบการปั้มน้ำมัน  เร่งแผนขยายสถานีชาร์จอีวี ทั่วประเทศ 

วันที่ 28 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่าจากกระแสความร้อนแรงของยอดจดทะเบียนรถยนต์ของกรมขนส่งทางบก แยกตามประเภทเชื้อเพลิง แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ รย.1 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ในปี 2566 ที่ผ่านมา (ม.ค.-ธ.ค.) มีจำนวนทั้งสิ้น 75,690 คัน จากยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งทั่วประเทศ 634,948 คัน ซึ่งสะท้อนว่ารถอีวี มีสัดส่วนยอดขายเกือบ 12% ของตลาดรถยนต์โดยรวมแล้ว

ทั้งนี้จากมาตรการส่งเสริม EV 3.0 ถึงมาตรการ EV 3.5 ที่มีทั้งมาตรการภาษี และการอุดหนุนเงินให้กับผู้ซื้อรถอีวี ไม่เพียงทำให้ตลาดอีวีในประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะเดียวกันค่ายอีวีจีนแห่เข้ามาลงทุนฐานผลิตในประเทศไทยด้วย

10จังหวัดที่มีคนใช้รถอีวีสูงสุด

แน่นอนว่าจังหวัดที่มียอดจดทะเบียนสูงสุดคือกรุงเทพมหานครจำนวน  52,751 คัน และจังหวัดที่ตามมาเป็นอันดับ 2 คือเชียงใหม่ 3,083 คัน และอันดับ 3 คือจังหวัดชลบุรี 2,392 คัน

อันดับ 4 คือ จังหวัดสงขลา 1,614 คัน, ขอนแก่น 1,409 คัน,ระยอง 1,283 คัน, อุบลราชธานี 1,190 คัน, สุราษฎร์ธานี 1,177 คัน, ภูเก็ต 1,039 คัน และอุดรธานี 965 คัน  

อย่างไรก็ดีสำหรับจังหวัดที่มียอดจดทะเบียนรถอีวีในปีที่ผ่านมาต่ำที่สุดคือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 1 คัน

ทั้งนี้หากแยกตามภูมิภาคนอกจากในพื้นที่ กทม.แล้ว ภาคเหนือถือว่ามียอดจดทะเบียนรถอีวีสูงสุด จำนวน 6,208 คัน ตามติดมาด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5,564 คัน, ภาคใต้ 4,840 คัน และภาคตะวันออก 4,180 คัน

5 แบรนด์อีวียอดนิยม

สำหรับแบรนด์รถอีวีที่มียอดขายสูงสุดในปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นแบรนด์ยอดนิยมของคนไทยอันดับ 1 คือแบรนด์ BYD จำนวน 30,467 คัน, อันดับ 2 NETA จำนวน 12,777 คัน, อันดับ 3 MG จำนวน 12,462 คัน, อันดับ 4 TESLA จำนวน 8,206 คัน และอันดับ 5 ORA จำนวน 6,746 คัน

โดยจะเห็นได้ว่าในท็อป 5 แบรนด์รถอีวีที่คนไทยให้ความนิยมสูงสุดเป็นค่ายจีนถึง 4 แบรนด์ เพราะด้วยระดับราคาที่จูงใจ ทั้งยังได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐ ทำให้ราคารถอีวีจีนเป็นที่ดึงดูผู้บริโภคอย่างมากคือตั้งแต่ระดับ 5 แสนบาท-1 ล้านบาทเศษ โดยจะมีเพียง TESLA ของสหรัฐค่ายเดียวเท่านั้นที่ติดอยู่ในอันดับ 4

OR เร่งปูพรมสถานีชาร์จอีวี

ขณะที่ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันก็เร่งแผนปรับเปลี่ยนเป็น “สถานีชาร์จอีวี” เพิ่มขึ้น โดยนายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ระบุว่า อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบจัดทำศูนย์บริการชาร์จอีวี หรือ “ฮับ EV Station PluZ” เป็นสถานีบริหารชาร์จอีวีโดยเฉพาะ ฮับอีวีแต่ละแห่งจะมีหัวจ่าย 8-10 หัวขึ้นไป (ไม่มีหัวจ่ายน้ำมัน) พร้อมบริการธุรกิจน็อนออยล์ครบวงจร

โดยเป้าหมายเบื้องต้น 10 แห่ง กระจายตามจังหวัดหัวเมือง ที่มีระยะห่างจากกรุงเทพฯ 200-300 กม. วางเส้นทางเหนือ อีสาน ใต้ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนจากกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อชาร์จจากที่บ้านไป เมื่อวิ่งไป 200-300 กิโลเมตร ก็ต้องการชาร์จไฟเติม เช่น ภาคเหนือ เล็งพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และกำแพงเพชร, ภาคอีสาน มองไปที่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา ภาคใต้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจะเริ่มนำร่องในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้เป็นแห่งแรก

นอกจากนี้โออาร์มีแผนจะเพิ่มจำนวนสถานีบริการ EV Station PluZ อีก 600 ทำเล คิดเป็นจำนวนหัวจ่าย 1,200 หัวจ่าย เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มี 700 ทำเล มีหัวชาร์จ 1,400 หัว โดยมีเป้าหมายจะลงลึกในระดับอำเภอด้วย