กรมขนส่งเล็งทำป้ายทะเบียนเฉพาะ EV เตือนกู้ภัยกรณีมีอุบัติเหตุ

รถติด

กรมการขนส่งทางบก เตรียมแยกประเภทรถใช้น้ำมันกับรถ EV ด้วยป้ายทะเบียนอย่างชัดเจนหวังเตือนกู้ภัยกรณีฉุกเฉิน เร่งศึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถต่อใบขับขี่ออนไลน์

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกเปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกมีแนวคิดในการพัฒนางานทะเบียน เพื่อคัดกรองแยกประเภทรถยนต์ให้ชัดเจน จากปัจจุบันมีการใช้สีของตัวอักษรในการแบ่งประเภทรถแล้ว แต่จะเห็นได้ว่าปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า 100% (EV) มีสัดส่วนการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ถึงวันนี้มีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) วิ่งอยู่บนถนนบ้านเราเกือบแสนคัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนและความปลอดภัย กรมอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อทำแผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ มอบหมายให้สำนักวิศวะฯ ไปศึกษาและทดลองทำแผ่นป้ายทะเบียนของรถอีวี โดยจะให้มีการปั๊มโลโก้หรือสัญลักษณ์ EV ลงไปในแผ่นป้ายทะเบียนด้วย

“ตอนนี้เรากำลังถกกันอยู่ว่าจะใช้วิธีปั๊มสัญลักษณ์ตัว E หรือ EV ตอกหมุดลงไปบนแผ่นป้ายทะเบียนเลย หรือจะเป็นอย่างอื่น โดยจะดูเรื่องของความคุ้มค่าและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย”

สำหรับแนวคิดดังกล่าวนี้จะสามารถช่วยแยกประเภทได้ชัดเจนขึ้น อย่างกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน ผู้ให้ความช่วยเหลือจะได้มีความระมัดระวังชัดเจน หรืออนาคตบางพื้นที่จะกำหนด หรือให้สิทธิพิเศษกับรถยนต์ประเภทนี้ก่อน จึงมีความจำเป็นต้องแยกให้ชัดเจนมากขึ้น

นอกจากการแยกประเภทรถยนต์ให้ชัดเจนแล้ว ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณารายละเอียดในการเสนอแก้ไขกฎเกณฑ์ของกฎหมายที่กำหนดให้สามารถใช้ระบบต่อใบขับขี่ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ โดยทั้งนี้จะมีการทดสอบสมรรถภาพของผู้ที่จะต่ออายุใบขับขี่ รวมทั้งการกำหนดเงื่อนไขของผู้ที่จะต่ออายุ ว่าจะสามารถทำได้มากน้อยเเค่ไหน เพื่อเป็นการช่วยลดภาระของประชาชนและกรมการขนส่งฯ

โดยอาจจะมีการนำระบบ e-Learning ที่มีอยู่มาใช้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งต้องมีการหารือกับแพทยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้อีกครั้งหนึ่ง

ADVERTISMENT

“เรากำลังทบทวนออกกฎกระทรวง ตรงนี้ซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร และมีหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งมีเรื่องไอที แพทยสภา ฯลฯ เพื่อมาทำงานร่วมกัน เราหวังว่าอนาคตเเนวคิดดังกล่าวจะช่วยลดภาระของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น”

สำหรับแนวคิดการต่ออายุใบขับขี่นั้น อนาคตกรมการขนส่งทางบกอาจจะให้ผู้ดำเนินการส่งใบรับรองแพทย์เข้าระบบ จากนั้นจะต้องมีการอัพเดตรูปถ่ายให้เป็นปัจจุบัน เพื่อช่วยยืนยันตัวบุคคล หรืออาจจะใช้วิธีดึงรูปจากบัตรประชาชนของผู้นั้นมาใช้ ต้องเป็นปัจจุบันยืนยันตัวตนให้ได้ด้วย

ADVERTISMENT