“ซูซูกิ” ปลื้มผลสำรวจความพึงพอใจหลังการขาย ขึ้น “ท็อปทรี”

นายโยจิ มุโรซากะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด  เปิดเผยผลการศึกษาวิจัยดัชนีด้านการบริการลูกค้าในประเทศไทย ประจำ ปี 2561 ของ เจ.ดี.พาวเวอร์ (J.D. Power 2018 Thailand Customer Service Index (CSI) Study SM)

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด
นายโยจิ มุโรซากะ

พบผลจากการประเมินความพึงพอใจโดยรวมของเจ้าของรถยนต์ที่ใช้บริการจากศูนย์บริการมาตรฐานสำหรับการบำรุงรักษาและงานซ่อมแซมในช่วง 12-36 เดือนของการเป็นเจ้าของ ใน 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่ คุณภาพงานบริการ (27%), การรับรถคืน (20%), สิ่งอำนวยความสะดวกของศูนย์บริการ (18%), การเริ่มต้นให้บริการ (18%) และที่ปรึกษาด้านบริการ (18%)

โดยซูซูกิ ได้อันดับ 3 ด้านความพึงพอใจในการบริการหลังการขาย ด้วยคะแนนความพึงพอใจรวม 837 คะแนน (คะแนนเต็ม 1,000 คะแนน) และส่งผลให้ขยับอันดับผลการสำรวจดีขึ้นจากค่าเฉลี่ยตลาดยอดนิยมในปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งได้อันดับ 6 ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นทุ่มเทในการพัฒนายกระดับงานด้านบริการหลังการขายเพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วยกลยุทธ์ในการดูแลและเข้าถึงลูกค้าด้วยความจริงใจและใส่ใจที่จะมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ”

ด้านนายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด กล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้งานบริการหลังการขายของซูซูกิมีระดับการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องคือ ซูซูกิได้พัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Dealer Management System หรือ DMS) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ในแบบ Real Time ซึ่งช่วยให้ทราบถึงประวัติการเข้ารับบริการของลูกค้า และสามารถประเมินค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการได้อย่างแม่นยำ

และยังร่วมมือกับผู้จำหน่าย ในการมุ่งเน้นอบรมพนักงานในเชิงปฏิบัติอย่างมืออาชีพ ปลูกฝังความรู้สึกเป็นเจ้าของเพื่อให้มีใจรักในการบริการลูกค้าด้วยความยินดีและเต็มใจ

นอกจากนั้น บริษัทยังเดินหน้าจัดการแข่งขัน ‘Suzuki Best Dealer Award 2017’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2  เพื่อคัดเลือกผู้จำหน่ายที่มีคะแนนสูงสุด 10 แห่ง ภายใต้หัวข้อ “การสร้างฐานลูกค้าที่ยั่งยืน บนพื้นฐานความพึงพอใจสูงสุดในธุรกิจซูซูกิ” เปิดโอกาสให้ผู้จำหน่ายแต่ละบริษัทได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาการสร้างความพึงพอใจสูงสุดกับลูกค้า เพื่อยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานในทุกด้านของผู้จำหน่าย  กระตุ้นให้เกิดการปรับปรุงพัฒนางานบริการอย่างต่อเนื่อง และเป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินธุรกิจของผู้จำหน่ายในประเทศไทย ด้วย