“บริดจสโตน”ทิ้งแบรนด์ แอค 60 แห่ง หันลุย ค็อกพิท เต็มสูบลั่น 3 ปี แชมป์ฟาสต์ฟิต

นายธนวัฒน์ กิตติรัตนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที. (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึง นโยบายของบริษัท ว่า ปีนี้บริษัทจะเดินหน้าเพื่อทำตลาดศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร หรือฟาสต์ฟิต อย่างเต็มสูบ

โดยล่าสุดบริษัทมีนโยบายยุติการดำเนินธุรกิจของศูนย์บริการ แอค ในประเทศไทย ที่มีอยู่ 60 สาขาทั่วประเทศลง พร้อมทั้งปรับศูนย์ฯ ทั้งหมดไปเป็นศูนย์บริการ “ค็อกพิท” แทน

พร้อมตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีศูนย์บริการค็อกพิททั้งสิ้น 320 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีศูนย์ค็อกพิท อยู่ 230 แห่งทั่วประเทศ

ภายใต้กลยุทธ์หลัก 3 ด้าน คือ 1.ยกระดับให้ค็อกพิทเป็น “ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร”

2.นำเสนอความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการ ได้แก่ ยาง, น้ำมันเครื่อง, แบตเตอรี่, เบรก, โช้กอัพ และการบำรุงรักษารถยนต์

3.การขยายสาขาทั่วไทย โดยเริ่มจากการเปลี่ยน “แอค” ทุกสาขาเป็น “ค็อกพิท” 320 แห่งในปีนี้

พร้อมวางงบประมาณในการลงทุนไว้สาขาละ 15-20 ล้านบาท สำหรับการขึ้นศูนย์บริการใหม่ และอีกสาขาละ 1 ล้านบาท สำหรับการเปลี่ยนจากแบรนด์แอคมาเป็นค็อกพิท

สำหรับศูนย์ค็อกพิทจะมีพร้อมสโลแกนใหม่ “คุ้มครบไว อุ่นใจที่ค็อกพิท” เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด ค็อกพิทพร้อมดูแลคุณได้อย่างครบครัน รวดเร็ว และคุ้มค่า พร้อมคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าทุกคน

การแข่งขันตลาดฟาสต์ฟิตถือว่ามีการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งกิจกรรมทางการตลาด โปรโมชั่นต่างจากแบรนด์ต่างๆ และแบรนด์ใหม่ๆ ของศูนย์บริการรถยนต์เพิ่มขึ้นมาทุกปี บริดจสโตน ในฐานะเจ้าแรกของการดำเนินธุรกิจฟาสต์ฟิตในประเทศไทย พร้อมที่จะสู้ศึกนี้ โดยยึดถือ ลูกค้าต้องมาก่อน (Customer Centric)

“เรามุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ในทุกด้าน เมื่อลูกค้าก้าวเข้ามาที่ค็อกพิทแล้ว เราเชื่อมั่นว่าลูกค้าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดี ทั้งจากผลิตภัณฑ์และบริการ กลายเป็นศูนย์บริการรถยนต์รายแรกที่ทุกคนคิดถึง เข้าไปอยู่ในใจลูกค้า จึงเป็นเหตุให้เกิดการควบรวมทีมงานของบริดจสโตน ส่ง “ค็อกพิท” สู้ศึกฟาสต์ฟิตนี้”

ทั้งนี้จากการปรับกลยุทธ์ข้างต้น คาดว่าจะสามารถคาดการณ์ยอดขายที่เติบโตขึ้น 10% โดยเทียบจากยอดขายปีที่ผ่านมา และคาดว่าภายใน 3 ปี ศูนย์บริการค็อกพิทจะขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดฟาสต์ฟิตได้อย่างแน่นอน