บิ๊ก “ฮอนด้า” กำหัวใจลูกค้า ลุยคลอดโปรดักต์ใหม่รักษาแชมป์รถนั่ง

สัมภาษณ์

แม้ว่าจะเป็นปีแห่งความยากลำบาก สำหรับทุกอุตสาหกรรมหลังจากต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่องรวมถึงปัญหาขาดชิ้นส่วนโดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) แต่สำหรับค่ายฮอนด้ายังคงเปิดแนวรุกทางด้านการตลาดแบบไม่ลดละ โดยเฉพาะการคลอดโปรดักต์ใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์ในตระกูลเดอะซิตี้ ซีรีส์ ล่าสุดก็เพิ่งส่งรถยนต์นั่งขนาดกลาง ซีวิค เจเนอเรชั่นที่ 11 ออกสู่ตลาดอีกระลอก อะไรคือความมั่นใจ วันนี้ “โนริยุกิ ทาคาคุระ” ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด สะท้อนมุมมองความคิด รวมถึงความมั่นใจที่จะฝ่าวิกฤตครั้งนี้

Q : ผลประกอบการครึ่งปีแรก

เรายังมองว่าช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา ฮอนด้าทำได้ตามเป้า แม้เศรษฐกิจของประเทศจะได้รับผลกระทบจากโควิดแต่ฮอนด้ายังสามารถทำยอดขายได้ 42,715 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 27.4% และที่สำคัญ ฮอนด้ายังคงความเป็นผู้นำในเซ็กเมนต์หลัก ทั้งตลาดบีคาร์และอีโคคาร์ ซีดาน ด้วยส่วนแบ่ง 29.3% คอมแพ็กต์ ซีดาน เซ็กเมนต์ ด้วยส่วนแบ่ง 64.4% และแอล-เอสยูวี เซ็กเมนต์ ด้วยส่วนแบ่ง 60.1% โดยจะเห็นได้ว่าสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายรถยนต์ยังคงชะลอตัว เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทวีความรุนแรงและกระจายไปในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น รวมทั้งชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้าลง

Q : แผนรุกตลาดครึ่งปีหลัง

สิ่งสำคัญในการทำตลาด คือ เราต้องยกระดับความพึงพอใจ เข้าไปกุมความต้องการของลูกค้า และสรรหาสิ่งที่ลูกค้าต้องการโดยจะพยายามคลอดรถใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามั่นใจว่าเป้าที่เซตไว้ตั้งแต่ต้นปี 1 แสนคันไม่น่าผิดพลาด แต่สิ่งสำคัญ ฮอนด้าจะพยายามสร้างยอดขายให้ได้มากที่สุด และรักษาผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งเอาไว้ให้ได้

เรายังเชื่อว่าปัจจัยที่จะมาช่วยขับเคลื่อนให้เราเดินไปสู่เป้าหมายดังกล่าวคือ การเปิดตัวรถยนต์ฮอนด้า และในเร็ว ๆ นี้ เราจะมีการแนะนำโมเดลอื่น ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย รวมทั้งการนำเสนอกิจกรรมการตลาดหลากหลาย เพราะเราเชื่อว่าความมุ่งมั่นทุ่มเทดังกล่าว จะผลักดันให้ฮอนด้าสามารถครองความเป็นเจ้าตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่องในปี 2564 ได้อีกครั้ง

Q : คาดหวังกับซีวิค ใหม่ แค่ไหน

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 11 ไอคอนของยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมี่ยมซีดานที่ทุกคนรอคอย ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคนี้ หลังจากการเปิดตัวที่ทวีปอเมริกาเหนือ ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมี่ยม ที่มาพร้อมขุมพลัง VTEC TURBO ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING จะทำให้ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ สามารถสร้างอีกหนึ่งตำนานบทใหม่ และผลักดันให้ฮอนด้ายังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของประเทศไทยได้อีกครั้ง ด้วยความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศเราตั้งเป้ายอดขาย ซีวิค ใหม่ สำหรับปีนี้ (ส.ค.-ธ.ค.) ไว้ที่ 10,000 คัน และวางเป้าหมายหลังจากเปิดตัวครบ 12 เดือน จะมียอดขายรวมไม่น้อยกว่า 17,000 คัน โดยสัดส่วนการขายหลักจะเป็นรุ่น EL+ สูงถึง 66% ส่วนรุ่นท็อปอย่าง RS มีส่วนแบ่ง 17% รุ่นเริ่มต้น EL มีส่วนแบ่ง 17% ที่สำคัญ ฮอนด้าเราตั้งใจยกระดับความคุ้มค่า และมอบสิ่งที่ลูกค้าอยากได้

Q : โรงงานที่ปราจีนฯจะกลับมาผลิตได้เมื่อไหร่

ตอนนี้สถานการณ์ในส่วนของโรงงานผลิตรถยนต์ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.ปราจีนบุรี ของเรากลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติแล้ว

ส่วนโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเองก็ยังคงผลิตกันตามปกติ ซึ่งเราต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง

Q : ประเมินตลาดในช่วงที่เหลือจากนี้

จะเห็นได้ว่าช่วงที่ผ่านมา ผลกระทบจากโควิดยังคงรุนแรง ฮอนด้าเองเรายังอยู่ในช่วงของการติดตามและประเมินสถานการณ์ โดยเฉพาะปัจจัยทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้คำตอบเร็วที่สุด

เพราะวันนี้ยอดขายสำหรับโมเดลที่มีราคาสูงน่าจะกระทบมากที่สุด แต่ตอนนี้เรากำลังศึกษาอยู่ รวมทั้งปัญหาเรื่องของเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) ทั้งฮอนด้า และผู้ผลิตเจ้าอื่น ๆ เองก็ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่กับปัญหาตรงนี้ เรายังไม่สามารถบอกรายละเอียด และการคาดการณ์ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ได้

Q : โอกาสที่จะได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าจากฮอนด้า

สำหรับรถอีวีในประเทศไทยนั้น ฮอนด้าต้องดูเรื่องของเวลาที่เหมาะสมก่อน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ใช่