สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังก้าวไปสู่เป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีเป้าหมายว่า ในปี 2573 จำนวน 50% ของรถยนต์ที่ขายในสหรัฐอเมริกา จะต้องเป็นรถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์
ทั้งนี้ ได้มีการเรียกผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกาหารือ ไม่ว่าจะเป็นจีเอ็ม, ฟอร์ด, ไครสเลอร์ และ Stellantis ซึ่งทุกบริษัทกล่าวในแถลงการณ์ร่วมว่า พวกเขาจะเร่งมือเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นให้ได้
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่า เป้าหมายของทั้งไบเดนและผู้ผลิตรถยนต์ไม่ได้จำกัดอยู่ที่รถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น ยังรวมถึงเซลล์เชื้อเพลิง ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน
ปฏิบัติการณ์นี้ “ไบเดน” ให้ความสำคัญมาก แม้จะถูกต่อต้านจากสหภาพแรงงานยูไนเต็ดออโตเวิร์ก (UAW)
เรย์ เคอรี่ ประธาน UAW ที่เข้าร่วมหารือ ตั้งข้อสังเกตว่า แม้สหรัฐอเมริกาจะพุ่งเป้าไปที่รถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังไงก็ต้องให้ความสำคัญกับการรักษาค่าจ้างและผลประโยชน์ชนชั้นแรงงานในอเมริกันด้วย
มีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากลงนามเรียบร้อยไบเดนก็กระโดดขึ้นรถจี๊ปที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าออกไปทำเนียบขาว
มีข้อน่าสังเกตจากผู้เข้าร่วมประชุมในวันนั้นว่า ซีอีโอของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกาทั้ง แมรี่ บาร์รา แห่งจีเอ็ม และจิม ฟาร์ลีย์ จากฟอร์ด และอื่น ๆ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุม
แต่อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ เทสลา อิงก์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐไม่ได้รับเชิญ
