ใครไม่มีมอเตอร์ไฟฟ้าหลบไป “เกรทวอลล์” ส่งอีกรุ่น “JOLION” ไฮบริด

เกรทวอลล์ ส่งโปรดักต์รุ่นที่ 3 ฮาวาล โจไลออน (JOLION)  ไฮบริด 190 แรงม้า ถล่มตลาด บีเอสยูวี  พร้อมเปิดตัวก่อนงานมอเตอร์เอ็กซ์โป

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564  นายอำนาจ แสงจันทร์ รองประธานฝ่ายผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ประเทศไทย เปิดเผยว่า โรงงานระยองได้เริ่มผลิต ฮาวาล โจไลออน ไฮบริด  เอสยูวีรุ่นที่ 2 จากแบรนด์ฮาวาล พร้อมเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของโลกในเร็ว ๆ นี้

โดยโจไลออน ไฮบริด ใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON เครื่องยนต์เป็นเบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร เกียร์แบบ DHT  เป็นเกียร์ไฟฟ้าทรงพลังและประหยัดน้ำมัน

โจไลออน ไฮบริด   โดดเด่นด้วยกระจังหน้า Star Matrix สีดำเทา ไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ พร้อม Daytime Running Light

มี  Welcome Light เมื่อปลดล็อก และไฟ Follow Me Home  ส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ ไฟท้ายเป็น LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม และไฟตัดหมอกหลังแบบ LED

หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค สปอยเลอร์ท้าย เสาอากาศแบบ shark fin เข้าทรงกับดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์สปอร์ต ตัวล้อเป็นอัลลอยดีไซน์สปอร์ต ทูโทน ขนาด 18 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารทูโทน ตัดด้วยลายเส้นสีโรสโกลด์ สีเงิน สีดำ และสีโครม ลำโพง 6 ตัว หน้าจอตรงกลางอัจฉริยะแบบทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, MP3 และ JOOX มีระบบนำทาง ที่สามารถบอกตำแหน่งต่าง ๆ ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า

ส่วนหน้าจอ Multi Information Display ให้ความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Head-up Display  ข้อมูลปรากฎบนกระจกบังลมหน้า

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้ายขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 และยังมี Wireless Charger สำหรับสมาร์ทโฟน กุญแจรถเป็น Smart Key มีกดปุ่มสตาร์ต

ส่วนเบาะที่นั่งเป็นหนังสังเคราะห์ดีไซน์สปอร์ต ด้านฝั่งผู้ขับไฟฟ้าปรับได้ 6 ทิศทางพร้อมระบบระบายอากาศ

เบาะที่นั่งด้านหลังจะมาพร้อมที่เท้าแขนกลาง และช่องปรับอากาศด้านท้าย สามารถพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,069 ลิตร

มิติตัวรถ 1,841×4,472×1,619 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) และระยะฐานล้อ 2,700 มม.

โจไลออน ไฮบริด จะเปิดตัวและราคาจำหน่ายในเร็วนี้ก่อนงานมหกรรมยานยนต์อย่างแน่นอน รถคันนี้ถือเป็นเอสยูวี ฮาวาล รุ่นที่ 2 ผลิตที่โรงงานอัจฉริยะในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นโรงงานเต็มรูปแบบแห่งที่สองนอกประเทศจีนที่เดินสายการผลิตตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา

ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นและศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในภูมิภาคอาเซียนที่ได้มาตรฐานระดับโลก และเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม