วัลลภ ตรีฤกษ์งาม งัดสารพัดวิธี…รักษาลูกค้า

สัมภาษณ์

ตลอดช่วงระยะเวลาของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่มีใครปฏิเสธว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยครั้งนี้ เช่นเดียวกับ ค่ายซูซูกิ ซึ่งได้รับผลกระทบ การดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขาย การตลาดหลาย ๆ อย่างต้องหยุดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายต่างได้แรงสะเทือนในครั้งนี้ไม่ต่างกัน วันนี้ “วัลลภ ตรีฤกษ์งาม” กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ฉายภาพการดำเนินธุรกิจและแนวทางในการขับเคลื่อนซูซูกิให้เข้าไปใกล้เคียงหรือไปสู่เป้าหมาย ยอดขายทั้งปี 3 หมื่นคัน

Q : สถานการณ์ในช่วง 10 เดือนแรก

สำหรับในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นว่าอุตสาหกรรมมีปัจจัยคล้าย ๆ กับปี 2563 ที่เป็นช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องมีการประกาศล็อกดาวน์ แต่ต้องไม่ลืมว่า ปีนี้มีสิ่งที่แตกต่างคือ ช่วงระยะเวลาของการล็อกดาวน์นั้นต่างกัน ปัจจุบันมีการเข้าถึงวัคซีนที่มากกว่า ย้อนกลับไปในช่วงล็อกดาวน์นั้น ลูกค้ามีความกังวลในการใช้จ่ายค่อนข้างมาก โดยเฉพาะรถในกลุ่มครอบครัวได้รับผลกระทบ บวกกับความจำเป็นในการใช้รถลดลงเนื่องจากนักเรียนไม่ต้องไปโรงเรียนยิ่งทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ตัดสินใจซื้อ

แต่วันนี้เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย มีนโยบายที่ขับเคลื่อนชัดเจนจากภาครัฐ บวกกับค่ายรถเริ่มทำแคมเปญอย่างซูซูกิ เรามีการจัดดีลดีเดย์ ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ค่อนข้างมาก

Q : ประเมินว่าตลาดโดยรวมยังดี

สำหรับ XL7 เปิดตัวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 วันนี้ผ่านมาปีกว่า ๆ มียอดขายไปแล้วเกือบ ๆ 5,000 คัน ซึ่งถือว่าค่อนข้างดี ปีนี้ซูซูกิได้ประกาศเป้าหมายยอดขายที่ 30,000 คัน บนพื้นฐานที่เชื่อกันว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมอยู่ที่ 800,000 คัน

ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนั้น เป็นการประเมินเมื่อช่วงต้นปีที่ยังไม่เกิดคลัสเตอร์โควิด และการประกาศล็อกดาวน์ ผ่านมา 10 เดือน ยอดขายรถยนต์อยู่ที่ประมาณ 596,000 คัน เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาที่เหลือ 2 เดือนคือ พ.ย.-ธ.ค.นั้น หมายความว่า อุตสาหกรรมจะต้องขายรถยนต์ให้ได้เดือนละ 100,00 คัน จึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ยกเว้นแต่ในเดือน ธ.ค. ซึ่งปกติเป็นช่วงเดือนขาย

บวกกับมีงานมหกรรมยานยนต์ รวมทั้งงานแสดงรถยนต์ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งขอนแก่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ ฯลฯ จะเป็นปัจจัยบวกช่วยผลักดันให้ยอดขายขยับขึ้นไปที่ 130,000-150,000 คันนั้น ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งปัญหาเรื่องของซัพพลายเชน การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ยังต้องเผชิญอยู่ก็ยังต้องติดตาม

Q : ต้องปรับเป้าหมายใหม่ด้วยหรือไม่

ตอนนี้ยอดขาย 10 เดือน ซูซูกิเราทำได้ 16,763 คัน แบ่งเป็น สวิฟท์ 5,789 คัน เออร์ติก้า 534 คัน เซเลริโอ้ 3,795 คัน เซียส 1,928 คัน แครี่ 2,289 คัน XL7 อีก 2,422 คัน แน่นอนว่า ซูซูกิได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับค่ายรถยนต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมหลายอย่างไม่สามารถทำได้ในช่วงที่ผ่านมา

ลูกค้าของเราในหลากหลายอาชีพได้รับผลกระทบ ทั้งลูกจ้างประจำ ภาคบริการซึ่งทุก ๆ คนโดนเหมือนกันหมด อีกทั้งสถาบันการเงินก็เข้มงวดพอสมควร แต่เราเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างมีความชัดเจน สถานการณ์โดยรวมเริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดี มีนักท่องเที่ยวทุกอย่างจะค่อย ๆ กลับมาคึกคัก หลายคนคลายข้อกังวล บรรยากาศเริ่มดีขึ้น คนก็อยากซื้อรถ คงเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

Q : คาดหวังอีเวนต์ใหญ่มากน้อยแค่ไหน

เชื่อว่าดีแน่ ที่สำคัญเมื่อทุกคนรู้ชัดว่าได้เดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่เชื่อว่าจะเริ่มมีการมองหารถยนต์คันใหม่เพื่อใช้งาน และมีการเร่งขอรับรถให้ทันก่อนสิ้นปีด้วย สุดท้ายซูซูกิเชื่อว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมปีนี้ 850,000 อาจจะเป็นไปได้ยาก แต่ตัวเลขที่ 760,000 น่าจะใกล้เคียงกับความเป็นจริง ส่วนซูซูกิ วันนี้เราพยายามหาวิธีรักษาลูกค้า เรามีแคมเปญ ดีลดีเดย์ ที่มอบเงื่อนไขดอกเบี้ย 0% อุปกรณ์ของแถมสูงสุด มูลค่า 50,000 บาท บัตรเติมน้ำมันขับฟรี 90 วัน ฯลฯ ไปจนถึง 30 พ.ย.นี้ก็น่าจะช่วยผลักดันยอดขายให้อีกระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ต้องพยายามไปให้ใกล้เคียงเป้าหมายยอดขายที่ 30,000 คันให้ได้มากที่สุด