MAZDA 3 รถคันนี้ก็ยังน่าสนใจ

คอลัมน์ : เทสต์ คาร์
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

ถือเป็นรถที่มีกลุ่ม “แฟน” ที่ค่อนข้างจะเหนียวแน่น สำหรับ Mazda 3 ทำตลาดในบ้านเรามาถึง 4 เจนแล้ว มียอดขายสะสมไปกว่า 85,000 คัน

ตลาดรถยนต์ในกลุ่มนี้แม้จะเป็นตลาดไม่ใหญ่มาก แต่เรียกว่ามีลูกค้าประจำ

ล่าสุดมาสด้าตัดสินใจปรับเพิ่มความสดใหม่ให้กับโปรดักต์ ที่ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มสีใหม่ “สีบรอนซ์ แพลทินั่ม ควอตซ์” มาเพิ่มเติมเท่านั้น แต่ยังมีการอัพเกรดอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้มากขึ้น

มาสด้า 3 ถือว่าโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบ เมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยเฉพาะการให้กลิ่นอารมณ์ของความเป็นรถสปอร์ตพรีเมี่ยม ที่ดูเฉียบภายใต้การออกแบบ Kodo-Soul of Motion

สำหรับ Mazda 3 เวอร์ชั่นนี้ เปลี่ยนมาใช้ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์แบบ LED ที่มาพร้อมกับระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ พร้อมด้วยไฟส่องสว่าง Daytime Running Lamp แบบ Signature และไฟท้ายแบบ LED Signature

เสริมลุกส์ความพรีเมี่ยมสปอร์ต มาสด้านำหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้าเข้ามาใส่ เอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบความหรูหรา และต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ เปิดมุมมองบนท้องฟ้าด้วยหลังคาซันรูฟ

เบาะที่นั่งเพิ่มความสะดวกด้วยเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง บันทึกตำแหน่งที่นั่งได้ 2 ตำแหน่ง ตรงนี้ถือว่าช่วยได้เยอะ

สำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่ต้องปรับเบาะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เมื่อเปลี่ยนผู้ขับ อย่างน้อยก็เซตตั้งค่าไว้ได้ 2 คน ส่วนระบบเสียง Bose รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง

ส่วนในระบบความปลอดภัย ได้เพิ่มระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง และกล้องมองหลัง, ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า และ Sports Paddle Shift พร้อมอัพเกรดความเร็วสูงสุดของระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS ซึ่งสามารถทำงานได้ถึง 145 กม./ชม. และใส่เทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE กว่า 12 ระบบ

ภายในห้องโดยสารยังคงเอกลักษณ์เน้นผู้ขับเป็นศูนย์กลาง ภายในห้องโดยสารยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสปอร์ตหรูมีระดับ พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียดเสมือนงานทำ Hand-Crafted Design ให้ความรู้สึกถึงความสะดวกสบายที่เหนือกว่า

แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิทัลแบบ TFT LCD พร้อมจอแสดงผลแบบสี MID และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า ทำให้เรามองเห็นความเร็วที่ใช้อยู่บนกระจกด้านหน้า ไม่ต้องละสายตาลงมามองที่หน้าปัด

ส่วนตรงคอนโซลกลางเป็นจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander คอนโซลกลางใกล้คันเกียร์ ใช้งานได้ง่ายสะดวกสบาย ยังสามารถเชื่อมต่อได้กับสมาร์ทโฟนผ่านระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay และ Android Auto

มาถึงฟีลลิ่งในการขับขี่ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร นั้นถือว่าเอาเรื่อง

บวกกับบุคลิกของรถที่เน้นความปราดเปรียว สปอร์ต โฉบเฉี่ยว การเซตช่วงล่างในแบบฉบับของมาสด้า ถือว่าไม่ทำให้ผิดหวัง Mazda 3 ครบเครื่องทั้งความคล่องตัว อัตราเร่ง ยิ่งในจังหวะของการออกตัวนั้น ถือว่าปรู๊ดปร๊าดทันใจ

พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มีทั้งโหมดแมนวลและออโต้มาให้เลือกใช้ แถมยังเลือกเล่นเกียร์ที่แพดเดิลชิฟต์ หลังแป้นพวงมาลัยก็มีมาให้

ลองพารถวิ่งซอกแซกเข้าไปยังพื้นที่ที่การจราจราหนาแน่น ก็สามารถมุดขึ้นขวา ลงซ้ายได้ แบบไม่เคอะเขิน ควบคุมได้ง่าย

เมื่อมีจังหวะวิ่งออกนอกเมือง ลองกดแป้นเรียกความเร็ว เครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างใจ เผลอแป๊บเดียว เข้มไมล์วิ่งปาเข้าไป 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อย ยังพร้อมทะยานไปได้อีก

บางจังหวะของการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ต้องชมระบบ GVC Plus ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความสมดุลในการเข้าโค้งได้มั่นใจขึ้นไปอีก

เอาเป็นว่าในบรรดารถในกลุ่ม เก๋งกลางที่มีอยู่ 3-4 ยี่ห้อให้เลือก

Mazda 3 รุ่น 2.0 SP Sports ที่ราคา 1.198 ล้านบาท ก็ยังน่าสนใจไม่น้อย