เบนซ์ ปรับใหญ่ทวงคืนแชมป์ อัพเกรดดีลเลอร์ตอบรับเทรนด์ดิจิทัล

“เบนซ์” ปรับใหญ่เตรียมชูนโยบาย “ราคาเดียว” ในไทย ไล่จัดทัพดีลเลอร์ใหม่ก้าวสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มตัว เน้นเซอร์วิสเซ็นเตอร์ ทวงคืนแชมป์รถหรู

แหล่งข่าวจากชมรมผู้จำหน่ายรถยนต์เมเซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากเสียแชมป์รถหรูให้กับคู่แข่งบีเอ็มดับเบิลยูมา 2 ปีซ้อน บริษัทแม่ได้เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไทยแลนด์ (เอ็มบีที) และบรรดาดีลเลอร์ 34 ราย

โดยเร็ว ๆ นี้จะนำ “วัน ไพรซ์ โพลิซี” (one price policy) มาใช้ในประเทศไทยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อยกระดับดีลเลอร์สู่การเป็นเอเย่นต์แบบเต็มตัว หลังจากงานขายและบริการหลังการขายก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว ลดปัญหาการตัดราคาระหว่างกัน

พร้อมทั้งมีการจัดทัพดีลเลอร์ใหม่ ซึ่งจะมีทั้งแต่งตั้งเพิ่มและปรับลดยกเลิกรายที่ขาดประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดน่าจะประกาศรายละเอียดต่าง ๆ ได้ในเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ บริษัทแม่ยังเตรียมสร้างแพลตฟอร์มการสื่อสาร ชูภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์ลักเซอรี่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

และล่าสุดยังเปลี่ยนค่านิยม พริตตี้ที่อยู่คู่กับงานจัดแสดงรถยนต์ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน หันมาใช้ ดิจิทัล ไกด์ “digital guide” พรีเซ็นเตอร์ที่ไม่จำกัดเพศ สีผิวหรือรูปร่าง, ไม่จำเป็นต้องแต่งตัววาบหวิว, ได้รับการอบรมเรื่องรถยนต์ และมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ให้ข้อมูลอย่างแม่นยำแทน

“ปีนี้ต้องบอกว่าค่ายดาวสามแฉกปรับเยอะมาก เป้าหมายก็เพื่อกลับขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดรถหรูอีกครั้ง โดยเฉพาะตัวผู้จำหน่ายตอนนี้เราขายแบบออนไลน์เยอะมาก ดังนั้น อนาคตก็ต้องหันมาเน้นเซอร์วิสเซ็นเตอร์ให้มากขึ้น”

แหล่งข่าวจากบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการปรับปรุงผู้แทนจำหน่าย ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำมาเป็นระยะ โดยเฉพาะการขยายเซอร์วิสเซ็นเตอร์ ซึ่งไม่เน้นงานขาย แต่จะเน้นบริการเป็นหลัก

โดยปรับปรุงและแต่งตั้งเพิ่มเติมไปแล้ว 6 แห่ง ได้แก่ สุขุมวิทของเบนซ์สวนหลวง, จีพี มอเตอร์ ระยอง, ธนบุรีพานิช บางพลัด, วีซีบีฯ ปากเกร็ด นนทบุรี, เบนซ์ เภตรา อยุธยา และพันทวียนต์ ลาดพร้าว

ล่าสุดเบนซ์-ธนบุรี ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด กำลังจะปรับลดตัวโชว์รูมราชดำเนินให้เป็นเซอร์วิสเซ็นเตอร์แทน ซึ่งจะทำให้เบนซ์ธนบุรีมีโชว์รูมเพียง 2 แห่งคือ ลุมพินีและงามวงศ์วาน ส่วนสาขาบางพลัดและราชดำเนินจะเป็นแค่ศูนย์บริการเท่านั้น

ส่วนดีลเลอร์ที่จะปรับลด ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างปรึกษาทีมกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีก 3 เดือน

ส่วนการหาผู้เข้ามารับผิดชอบในพื้นที่เดิม บริษัทเปิดโอกาสให้ดีลเลอร์รายอื่น ๆ ที่สนใจเข้ามารับผิดชอบแทนขณะที่เบนซ์ทองหล่อ ได้ยุบรวมเป็นเบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา ถนนรามอินทรา กม.7

ส่วนพื้นที่ย่านสุขุมวิท บริษัท สวนหลวง ออโต้เฮ้าส์ จำกัด ภายใต้ชื่อ “เอ็มบี สุขุมวิท (MB Sukhumvit)” เข้ามารับหน้าที่ดูแลลูกค้าแทน และยังมีแผนจะขยายศูนย์บริการแห่งใหม่ เอ็มบี เอ็มไพร์ (MB Empire) ไปยังโซนรามอินทราด้วย

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทแม่จากนี้จะมุ่งเน้นตัวแทนจำหน่ายที่ลงทุนในด้านดิจิทัลโชว์รูม มากกว่าการลงทุนเพื่อก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการขนาดใหญ่

ซึ่งหลังจากนี้จะเห็นภาพแบบนั้นน้อยลง ซึ่งสอดรับกับเทรนด์ของโลก รวมทั้งพฤติกรรมของลูกค้าที่หันมาเน้นความสะดวกสบายและระบบดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธาน บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพการขายและการบริการแบบใหม่ สิ่งที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งเป้าหมายไว้ คือการเพิ่มปริมาณการขายต่อจุดขายและบุคลากร ตลอดจนการเพิ่มการเติบโตของธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ควบคู่ไปกับการเติบโตของศูนย์บริการ

โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ยืนยันว่า โชว์รูมและศูนย์บริการจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ แต่จะต้องปรับบทบาทใหม่ โดยเปลี่ยนโชว์รูมให้กลายเป็น touchpoint ที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์

และให้ลูกค้าสามารถกำหนดทุกอย่างได้ตามความต้องการ ลูกค้าจะสามารถเชื่อมต่อแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ก่อนผ่านช่องทางออนไลน์ ก่อนที่แบรนด์จะพาลูกค้าเชื่อมต่อไปยังช่องทางออฟไลน์ที่โชว์รูมและศูนย์บริการได้อย่างไร้รอยต่อ


ซึ่งนี่คือวิธีการที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถบริหารงานได้อย่างมีความยืดหยุ่น และสะดวกขึ้นสำหรับลูกค้า ทั้งยังเป็นการบริหารงานที่มีความยั่งยืนมากขึ้นสำหรับพันธมิตรในระยะยาว