คอลัมน์ : เทสต์คาร์ ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- สหรัฐปรับ เอสซีจี พลาสติกส์ ละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เรื่องเป็นอย่างไร บริษัทไหนเกี่ยวบ้าง ?
ฮอนด้า เดินหน้านำเสนอโปรดักต์ ที่มีเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ที่เรียกว่า “อี:เอชอีวี” (e:HEV) กับรถยนต์ทุกรุ่นที่ขายในบ้านเรา
โดยตัวล่าสุด คือ ซีวิค อี:เอชอีวี ซึ่งมีด้วยกัน 2 รุ่น ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ธรรมดา กับอาร์เอส
เท่ากับว่าตอนนี้ฮอนด้า ซีวิค ที่วางขาย มีรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ และรุ่นไฮบริด 2 รุ่นย่อย ที่ใช้เครื่องยนต์ 2 ลิตรผสมมอเตอร์ไฟฟ้า ส่วนรุ่น 1.5 อาร์เอสปิดไลน์การผลิตไปแล้ว
วันนี้จะพาไปสัมผัสฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี RS เครื่องยนต์ฟูลไฮบริด ขนาด 2 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC ขนาด 4 สูบ 16 วาล์ว ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้กำลังสูงสุดถึง 184 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร
ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย
ส่วนเส้นทางทดสอบครั้งนี้ ฮอนด้าตัดสินใจเลือกใช้เส้นทางจากตัวเมืองเชียงราย มุ่งสู่ อ.เชียงแสน และวกกลับเข้าสู่ตัวเมืองอีกครั้ง รวมระยะทางเกือบ ๆ 140 กิโลเมตร
โดยการทดสอบครั้งนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” เลือกในเส้นทางขาไป จากตัวเมืองเชียงราย มุ่งหน้าสู่ อ.เชียงแสน รวมระยะทางกว่า 60 กิโลเมตร
ความเปลี่ยนแปลงสำหรับรถรุ่นนี้ หลัก ๆ คงเป็นขุมพลังเครื่องยนต์ และความโดดเด่นของมอเตอร์ไฟฟ้า
และพยายามเพิ่มออปชั่น เช่น เบาะที่นั่งด้านหลังแบบแยกพับ 40 : 60 เพื่อเอาใจลูกค้าที่ต้องการเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ
และช่องปรับอากาศพร้อมช่องเสียบ USB มาให้ 2 ช่องสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
ขณะที่ความเปลี่ยนแปลงภายนอกนั้น ฮอนด้าเลือกใช้ชุดแต่ง RS ใช้สัญลักษณ์ H Mark กรอบสีฟ้า ที่บ่งบอกและสะท้อนความเป็นรถ อี:เอชอีวี พร้อมสัญลักษณ์ RS สีแดงโดดเด่น
กระจังหน้า กันชนหน้าสไตล์สปอร์ต กระจกมองข้างสีดำ
มือจับสีดำมีขอบสีเงินโครเมียมเข้ามาช่วยตัด, ไฟฟ้า LED ส่องสว่างในเวลากลางวัน พร้อมกรอบโครเมียมเช่นเดียวกับไฟตัดหมอกและไฟท้าย มีโลโก้ e:HEV และ RS ที่ด้านท้าย
เสาอากาศแบบครีบฉลาม, ล้ออัลลอย สีทูโทนออกแบบมาเฉพาะขนาด 18 นิ้ว
ห้องโดยสารมาในโทนสีดำ ที่มีเฉพาะรุ่น RS ชวนค้นหา การออกแบบและจัดวางวัสดุอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ได้ต่างจากซีวิครุ่น 1.5 ลิตรเทอร์โบ
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง ส่วนผู้โดยสารคู่หน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
ส่วนที่หน้าระบบเครื่องเสียงหน้าจอแสดงข้อมูลแบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว รองรับกับ Apple CarPlay และ Android Auto ส่วนหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ซึ่งแสดงผลบอกสถานต่าง ๆ ชัดเจน ในรุ่น RS ยังมี Smart Key Card
ระบบความปลอดภัยต่าง ๆ มาให้จัดเต็มกับ Honda SENSING
ส่วนสมรรถนะอย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่ารถคันนี้เป็นรถยนต์ไฮบริดขุมกำลังของเครื่องยนต์ผสานกับมอเตอร์ ถือว่าจัดจ้าน…สมูท ไร้รอยต่อของจังหวะการเปลี่ยนเกียร์
จังหวะการออกตัว สัมผัสได้ถึงอาการหลังติดเบาะ แต่เสียงที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารของเครื่องยนต์นั้นถือว่าเงียบกริบ
วิ่งด้วยย่านความเร็ว 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สัมผัสได้ถึงเสียงของล้อยางที่บดไปกับพื้นถนน และเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาพอสมควร
ส่วนพวงมาลัย ให้ความรู้สึกว่า ฮอนด้าเซตมาค่อนข้างเบา วิ่งทางไกล ๆ ยาว ๆ ด้วยความเร็วอาจจะรู้สึกเบาหวิวได้
แต่ถ้าวิ่งซอกแซกในเมืองน่าจะได้ความสนุกและความแม่นยำเพิ่มขึ้น
ส่วนอาการของ “ช่วงล่าง” แม้ว่ารถคันนี้จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มเข้ามารวม ๆ 100 กิโลกรัมที่ต้องแบกเอาแบตเตอรี่เพิ่มเข้ามา
- ฮอนด้า เตะสกัดคู่แข่งเปิดจองสิทธิ “ซีวิค ไฮบริด” ในมอเตอร์โชว์ ขาย 1.27 ล้าน
- ชิ้นส่วนขาด “ฮอนด้า” ประกาศหยุดผลิต 5 วัน ทั้งสองโรงงาน
แต่ฮอนด้าได้มีการปรับจูนช่วงล่าง ตั้งค่าสัมประสิทธิ์ ให้จุดศูนย์ถ่วงล้อต่ำลง 10 มิลลิเมตร และนำแบตเตอรี่ไปวางใต้ที่นั่งด้านหลัง ซึ่งช่วยได้เยอะ
แต่…บางจังหวะที่ทำความเร็ว ยังสัมผัสได้ถึงแรงเหวี่ยง จับได้ถึงอาการโยนของห้องโดยสาร โดยเฉพาะเมื่อลองขยับมานั่งที่ห้องโดยสารด้านหลัง
ซีวิคมี 3 โหมดการขับขี่ให้เลือก คือ ECON, Normal, Sport
โดยหลัก ๆ ของการทดสอบ เราเลือกโหมด Normal ก็เพียงพอแล้วในส่วนของพละกำลังการขับขี่
ต้องชมว่า ฮอนด้าทำเครื่องยนต์ อี:เอชอีวี ในซีวิค เวอร์ชั่นนี้ออกมาดีมาก ๆ
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรแรงจัดจ้าน แถมได้ความประหยัด ฮอนด้าเคลมอัตราสิ้นเปลืองไว้ที่ 25 กิโลเมตรต่อลิตร
ส่วนราคาค่าตัวของฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี อยู่ที่ 1.259 ล้านบาท